บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Gulf Energy Development (GULF.BK/GULF TB)*
ประมาณการ 2Q66F: กำไรแค่ทรงตัวในช่วงสั้น
Event
ประมาณการ 2Q66F
Impact
ประมาณการ 2Q66F – ขาดทุนหนักจาก FX ในขณะที่ผลการดำเนินงานทรงตัว
วันที่ 10 ส.ค. เราคาดว่า GULF จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q66F จะอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (-23% QoQ, +94% YoY) เพราะถูกกดดันจากผลขาดทุนจาก FX ก้อนใหญ่ เราคาดว่ากำไรหลักใน 2Q66F จะอยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท (ทรงตัว QoQ, +19% YoY) ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 1H66F เพิ่มขึ้นเป็น 7.3 พันล้านบาท (+16% YoY) คิดเป็น 46% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา โดยสาเหตุสำคัญจะมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นของ SPPs และการเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการ IPPs.
ปัจจัยบวกหักล้างไปกับปัจจัยลบ
เราคาดว่ากำไรหลัก GULF ใน 2Q66F จากเดิมจะเพิ่มขึ้น QoQ กลับแค่ทรงตัว QoQ จากปัจจัยบวกและลบที่หักล้างกัน โดยปัจจัยบวก ได้แก่ margin ของ SPP แข็งแกร่งขึ้น, รับรู้ GPD เฟส 1 (928) เต็มไตรมาส ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจาก INTUCH* (กำไร ADVANC* เพิ่มขึ้น) และ PTTNGD (ราคาก๊าซลดลง) ทั้งนี้ ราคาก๊าซเฉลี่ยของ SPP ลดเหลือ 420 บาท/mmbtu (-76 บาท) ขณะที่ค่า Ft เฉลี่ยเหลือ 1.12 บาท/kWh (-0.42 บาท) ทั้งนี้ยอดขายไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าอุตสาหกรรมของ GULF ค่อนข้างซึมเพราะวันหยุดเยอะ ส่วนทางด้านของปัจจัยลบ ได้แก่ margin ของ IPP ลดลง (แทบไม่ได้ใช้น้ำมันดีเซลเลย), ผลการดำเนินงานของโครงการพลังลมอ่อนแอลงตามฤดูกาล (แรงลม), ดอกเบี้ยสูงขึ้น, Jackson อ่อนแอลง (ราคาก๊าซลดลง) และ SPPs บางโครงการปิดซ่อมบำรุงตามแผน ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับ 2Q65 กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY มาจากการฟื้นตัวของ margin ของ SPPs, การรับรู้เต็มปีจาก GSRC, และเริ่มรับรู้ GPD เฟส 1 (464MWe)
แนวโน้มสดใสที่สุดในกลุ่มสาธารณูปโภคของไทย
เรายังคงประมาณการกำไรปี 2566F-2568F ที่คาดจะเติบโต 39% YoY/22% YoY/16% YoY โดยปัจจัย กระตุ้นที่สำคัญจะมาจากโรงไฟฟ้า, โครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจโทรคมนาคม ทั้งนี้ GULF มีกำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการแล้ว 6,088MWe และยังมีกำลังการผลิตอีก 3,956MWe (+65%) ที่เตรียมจะเปิด COD ในปี 2566-2576 โดยบริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนโครงการพลังงานหมุนเวียนเป็น 40% ของกำลังการผลิตรวมในปี 2578 (จากปัจจุบันที่ 9%) เรามองว่า ROE ของ GULF มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและจะอยู่ในช่วง 11- 14% ในปี 2566-2568F ต่างกับหุ้นอื่นในกลุ่มที่ ROE มีแนวโน้มจะลดลง เราคาดว่าผลประกอบการของ GULF ในงวด 2H66 จะแข็งแกร่งขึ้น HoH โดยจะได้รับแรงสนับสนุนจาก margin ที่แข็งแกร่งขึ้นของ SPP, การรับรู้ผลการดำเนินงานอย่างเต็มที่ของ GDP, และ high season ของโครงการพลังงานลม
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ GULF ด้วยราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 60.00 บาท เราเชื่อว่าความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับ สถานการณ์การเมืองในประเทศ, ราคาก๊าซที่ลดลง และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ นอกจากนี้ GULF ยังมีโครงการที่ชัดเจนรออยู่ใน pipeline และเราคาดว่าจะบริษัทจะได้โครงการใหม่ๆ อีกเนื่องจากมี connection เหนือกว่าคู่แข่ง
Risks ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, เกิดปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย