Hello Welcome / 1515-1530

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ยังไปไหนไม่ไกล : แม้ในตลาดเริ่มมองว่าจะได้รัฐบาลใหม่ช่วงต้นเดือน ส.ค. แต่การเมืองยังต้องรอความชัดเจน และมองยังมีประเด็นที่เป็นแรงกดดันต่อภาพการลงทุน หลังนายทักษิณ ชินวัตร ประกาศจะกลับไทยในวันที่ 10 ส.ค. ขณะนี้นายทักษิณ ยังมีคดีความอยู่อีก 3 คดี โทษจำคุก 10 ปี ทางฝ่ายมองการกลับไทยครั้งนี้ พร้อมเข้ากระบวนการตามกฎหมาย อาจทำให้ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นตัวเต็งจัดตั้งรัฐบาลไม่พอใจ จนอาจทําให้เกิดการประท้วง และความรุนแรง รวมถึงอาจไม่ลงตัวง่ายๆ ในการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีเอี่ยวกับผู้มีอำนาจทางการเมืองในอดีต ทำให้ขั้วตรงข้ามไม่พอใจเช่นกัน ภาพโดยรวมจึงยังสร้าง Sentiment ลบให้กับตลาด ด้านตัวเลขส่งออกนําเข้าไทยวานนี้ ออกมาเกินดุล 57.7 พันล้านเหรียญฯ ดีกว่าที่ตลาดคาด และกลับมาเกินดุลครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ปีนี้ โดยส่งออกที่ออกมา -6.4% (y-y) ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดมาจาก ผลไม้สด/แช่แข็ง ไก่สด/แช่แข็ง และน้ำตาลทราย ที่ยังขยายตัวได้ดีในช่วงดัชนีราคาน้ำตาลปรับขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกสินค้า เกษตรยังน่ากังวลหลังหดตัวแรง ด้านปัจจัยภายนอก เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเน้นพิจารณาเป็นครั้งไป คาดตลาดรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปมากแล้ว คงเน้นไปที่ผลประกอบการเป็นหลัก โดยรวมจึงมองตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยบวกที่เด่นชัดนัก จึงอาจมี Upside จํากัดระหว่างรอความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล คืนนี้จับตาผลการประชุม ECB คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% มองตลาดน่าจะ Price in ไปในระดับหนึ่งเช่นเดียวกับการประชุมเฟด
  • กลยุทธ์การลงทุน: 1) Global Play : SPRC, TOP, CBG, BANPU 2) Export ไทยโต : CPF, GFPT, KTIS, KSL, BRR 3) ดอกเบี้ยขาขึ้น: BBL, KTB 4) Defensive: BCH, ADVANC, BEM 5) Selective: SIRI, SAPPE, SC

ปัจจัยบวก

  • พลังงาน คาดแนวโน้มค่า Ft งวด.ใหม่ ก.ย.-ธ.ค.ดีขึ้นหลังราคา LNG อ่อนตัวลง
  • IMF เพิ่มคาดการณ์ GDP กลุ่มอาเซียน 5 ประเทศปีนี้สู่ 4.6% พร้อมปรับเพินคาดการณ์การโตของ GDP โลกจาก 2.8% สู่ 3%
  • กระทรวงพาณิชเผยตัวเลขส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กฯ และเนื้อไก่ยังดี หนุนกลุ่มเนื้อสัตว์ และ ETRON
  • สศค.เผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนก.ค. สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการ และภาคการลงทุนเป็นสำคัญ

ปัจจัยลบ

  • ศาล รธน.นัด 3 ส.ค.ถก “รับ-ไม่รับ” คําร้องวินิจฉัยปมมติรัฐสภาห้ามโหวต “พิธา” รอบ 2 การเมืองยัง Overhang ต่อ
  • สศค.ปรับลดประมาณการ GDP ไทยปี 66 มาอยู่ที่ 3.5% จากเดิมที่คาดไว้ 3.6% จากสมมติฐานรายได้ท่องเที่ยวที่ปรับลดลงมาที่ 1.25 ล้านล้านบาท จากเดิม 1.3 ล้านล้านบาท เนื่องจากโครงสร้างนักท่องเที่ยวต่างชาติเปลี่ยนแปลงไป
  • ต่างชาติขายสุทธิในหุ้นไทย -926.77 ล้านบาท นับเป็นการขาย ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5

PICKS OF THE DAY

SIRI BUY

  • เป้าหมาย 2.06/2.10. แนวรับ 1.95/1.97
  • มอง 2Q66 กำไรเติบโต y-y และ q-q: คาดรายได้รวม 2Q66 ยังเติบโต y-y และ q-q จากทั้งโครงการเดิมที่ยังโอนได้ต่อเนื่อง และโครงการใหม่ที่เปิดตัวในไตรมาส2 ยังโอนเข้ามาเสริมได้อีกอย่าง อย่างนาราสิริ พหลวัชรพล และเศรษฐสิริ ดอนเมือง การตอบรับจากลูกค้าดีกว่าเป้า และยังมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินราว 400 ลบ. คาดกำไรสุทธิ 2Q66 เติบโต y-y และ q-q
  • Div. yield สูง: มองกำไร 1H66 อยู่ในระดับดี คาดปันผลครึ่งปีแรก 0.049 บาท/หุ้น ให้ Yield ครึ่งปีราว 2.45% ถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าอดีตในช่วงภาวะปกติก่อนโควิด

BCH BUY

  • เป้าหมาย 18.50/19.00 แนวรับ 17.50/17.70 
  • ขึ้นค่ารักษาสปส. : SSO ประกาศปรับค่ารักษาประกันสังคมขึ้นจาก 1,640บาทต่อคน เป็น1,808บาทต่อคนโดยมีผลในเดือนพ.ค.66ที่ผ่านมา หนุนรายได้ประกันสังคมปี66โตมากขึ้น โดยใน1Q23มีจำนวนผู้ประกันตนอยู่ที่1ล้านคนเพิ่มขึ้น2.7%y-y
  • เปิดโรงพยาบาลใหม่: จะเปิดโรงพยาบาลใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์มะเร็งรังสีรักษา เกษมราษฎร์อารี คาดเปิดปลายปีนี้–ต้นปี67 และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์สุวรรณภูมิ คาดเปิดต้นปี 70 ขนาด268เตียง
  • ผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น: รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติจะมีมากขึ้นจากการเปิดประเทศ รวมทั้งได้มีการทำสัญญากับเอเจนซี่ต่างชาติในการส่งต่อผู้ป่วยมายังโรงพยาบาล
- Advertisement -