บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
L.P.N. Development (LPN.BK/LPN TB)
คาดกำไรสุทธิใน 2Q66F ลดลงทั้ง YoY และ QoQ
Event
ประมาณการ 2Q66F และปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F-2567F
Impact
ยอดจองและการเปิดโครงการใหม่ใน 2Q66 – ยังไม่น่าประทับใจ
LPN รายงานยอดจองที่อยู่อาศัยรวม (presales) ใน 2Q66 อยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY แต่ -3% QoQ) ปัจจัยที่สำคัญเกิดจาก presales ของโครงการแนวราบชะลอตัวกว่าคาด (-38% YoY และ -12% QoQ) หากมองในด้านบวก LPN มี presales รวมใน 1H66 อยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท (+12% YoY) แบ่งเป็นจากโครงการแนวราบที่ 973 ล้านบาท (-25% YoY) และจากโครงการคอนโดมิเนียมที่ 4.4 พันล้านบาท (+26% YoY) ทั้งนี้ presales ของโครงการคอนโดมิเนียมยังแข็งแกร่งส่วนหนึ่ง หนุนจากยอดขายของโครงการ ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต ด้วย guaranteed yield สูงอยู่ที่ 8% ใน 1Q66 และที่ 7.5% ใน 2Q66 อย่างไรก็ตาม presales รวมใน 1H66 คิดเป็น 51% จากประมาณการ presales เต็มปี 2566F ของเราที่ 1.04 หมื่นล้านบาทและคิดเป็น 41% จาก guidance เต็มปีนี้ของบริษัทที่ 1.3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ เราคาดมูลค่าโครงการเปิดใหม่ปีนี้อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของ LPN ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท
คาดกำไรสุทธิใน 2Q66F ลดลงทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดรายได้จากที่อยู่อาศัยใน 2Q66F ของ LPN จะทรงตัว QoQ แต่ลดลงเล็กน้อย YoY ขณะที่คาดรายได้จากธุรกิจให้เช่าและธุรกิจบริการเพิ่มขึ้น QoQ เป็นเลขหลักเดียว ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของธุรกิจที่อยู่อาศัยคาดแย่ลง 21-22% จากยอดขายของทั้งโครงการแนวราบและโครงการคอนโดมิเนียมมี margin ต่ำลงเป็นสำคัญ โดยรวมแล้วเราคาดกำไร 2Q66F อยู่ที่ 126 ล้านบาท (-14% YoY และ -13% QoQ) หากเป็นไปตามเราคาด กำไร 1H66F จะลดลง 20% YoY อยู่ที่ 271 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรใหม่ปี 2566F ของเรา
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F และปี 2567F ลงจากเดิมอีก
บนสมมติฐานที่เราคาดว่ากำไร 1H66F จะออกมาน่าผิดหวัง เราจึงปรับลดประมาณการกำไรลง 12% ในปี 2566F และ 10% ในปี 2567F ทำให้กำไรใหม่ปี 2566F อยู่ที่ 541 ล้านบาท (-12% YoY) แต่จะเร่งตัวเพิ่มขึ้น +8% YoY อยู่ที่ 586 ล้านบาทปี 2567F ในระยะสั้น เราคาดกำไร 3Q66F อ่อนแอ YoY จะเป็นเพราะไม่มีรายการรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์เช่นเดียวกับที่เกิดในช่วง 3Q65 อย่างไรก็ตาม คาดกำไรจะดีดตัวแข็งแกร่งขึ้นใน 4Q66F จากมีฐาน 4Q65 อยู่ในระดับต่ำที่ 38 ล้านบาท
Valuation & action
เราคงคำแนะนำ “ขาย” ประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 3.30 บาท ลดลงจากเดิมที่ 3.68 บาท โดยอิงจาก PE ปี 2566F ที่ 9.0x หรือเท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.75SD
Risks ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอและโอกาสการปฏิรูปนโยบายจากภาครัฐ