ปัจจัยสำคัญยังคงเป็นเรื่องการเมืองในประเทศ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.5% หลังจากบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการที่ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ประกอบกับเงินเฟ้อ PCE ต่ำกว่าตลาดคาด ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.9% มองถึงอุปสงค์ที่แกร่ง
Market Outlook
วันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงาน PCE ประจำเดือน มิ.ย. พบว่าขยายตัวเพียง 3%YoY 0.2%MoM ตามที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม Core PCE ขยายตัวเพียง 4.1%YoY 0.2%MoM ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4.2%YoY ภายในพบว่าราคาสินค้า (-0.6%YoY) ราคาสินค้าคงทน (-0.4%YoY) ราคาสินค้าไม่คงทน (-0.8%YoY) และราคาพลังงาน (-19%YoY) ส่วนสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ ด้านบริการ (+4.9%YoY) ราคาอาหาร (+4.6%YoY) ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมดพบว่า CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 80% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยระดับเดิมสำหรับการประชุมเดือน ก.ย. ด้าน US Bond Yield อายุ 10 ปีและ Dollar Index ปรับขึ้นเล็กน้อย
สำหรับสัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค. ซึ่งประธานสภาได้ระบุว่า คาดศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในวันที่ 3 ส.ค. หากรับคำร้องแต่ไม่เลื่อนวันโหวดนายกฯ ก็เชื่อว่าในวันที่ 4 ส.ค. กระบวนการต่างๆ จะเดินหน้า แต่หากเลื่อนวันโหวดนายกฯ ก็อาจมีผลกระทบต่อ SET INDEX บ้าง ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นกับระยะเวลาในการเลื่อนแต่หากวันที่ 4 ส.ค. การโหวตนายกรัฐมนตรีผ่านไปด้วยดี คาดตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวกทดสอบบริเวณ 1560 – 1570 อย่างไรก็ตาม หากปรับขึ้นถึงบริเวณดังกล่าว เชื่อว่า Upside จะเริ่มจำกัดจากการ Price In ประเด็นบวกด้านการเมืองไปมากแล้ว ส่วนต่างประเทศเน้นที่ภาคแรงงานสหรัฐฯ โดยวันอังคารจะมีตำแหน่งเปิดรับสมัครงาน Bloomberg คาดที่ 9.6 ล้านตำแหน่ง และในวันเดียวกันก็จะมี ISM PMI Bloomberg ประเมินไว้ที่ 46.9 ถัดมาวันศุกร์จะมีตัวเลขสำคัญ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินไว้ 2 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานที่ 3.6% หากรายงานแล้วตัวเลขแย่กว่าคาด ประเมินตลาดจะตอบรับเชิงบวก
สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวกรอบ 1530 – 1560 เชิงกลยุทธ์จังหวะปรับขึ้นมองเป็นโอกาสทยอยลดพอร์ตมากกว่า เนื่องจากดัชนี Price in ประเด็นบวกด้านการเมืองไปเยอะแล้ว ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นเลือกกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) สื่อนอกบ้าน (PLANB) โรงหนัง (MAJOR) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SHR)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 56.50 บาท) คาดว่ากําไรปกติไตรมาส 2/23 จะอยู่ที่ 507 ล้านบาท (-11% YoY, +47% QoQ) ฟื้นตัวดี QoQ เพราะฐานต่ำในไตรมาส 1/23 แม้ยอดขายกลุ่มยานยนต์ในตลาดโลกจะฟื้นตัวดีในไตรมาส 2/23 แต่เรายังมีมุมมองระมัดระวังต่อสภาพเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และ EU (72% ของยอดขายปี 2022) ขณะที่มีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมในระยะยาวของ KCE เพราะกระแส EV ที่มักใช้ PCBs ต่อ ตร.ม. มากกว่ารถสันดาปภายใน (ICE) ถึง 4-10 เท่า
GULF (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 58.00 บาท) เลือก GULF เป็น Top pick เนื่องจากกำไรรายไตรมาสยังอยู่ในช่วงขาขึ้นตลอดทั้งปี 23-24E ปัจจัยทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลายและภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นที่ใกล้จบรอบ แม้ราคาจะขึ้นมาจากจุดต่ำพอสมควรแต่ upside ยังเปิดกว้าง