บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Global Power Synergy (GPSC.BK/GPSC TB)*
ประมาณการ 2Q66F: กำไรน่าจะสะดุดในช่วงสั้น
Event
ประมาณการ 2Q66F
Impact
ประมาณการ 2Q66F – กำไรจะลดลงทั้ง QoQ และ YoY
ในวันที่ 9 สิงหาคม เราคาดว่า GPSC จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q66F อ่อนแอที่ 484 ล้านบาท (-57% QoQ, -29% YoY) เนื่องจากผลการดำเนินงานอ่อนแอ จากที่ก่อนหน้านี้คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้หากไม่รวมรายการพิเศษและค่าใช้จ่าย amortization ของ GLOW 476 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 1.0 พันล้านบาท (-31% QoQ, -6% YoY) เราคาดว่ากำไรหลัก 1H66F จะอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท (+88% YoY) คิดเป็น 43% ของประมาณการกำไรปี 2566F ของเรา ทั้งนี้ GPSC คาดว่าจะไม่ต้องตั้งสำรองแบบ front-loaded สำหรับกรณีพิพาทเกี่ยวกับ GHECO-One ซึ่งถูกกล่าวหาว่าผิดสัญญาในการจัดหาถ่านหินกับ supplier รายหนึ่ง
ถูกรุมกระหน่ำด้วยปัจจัยลับ จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวก
เราคาดว่ากำไรขั้นต้นของ GPSC จะเหลือ 2.1 พันลบ. (-20% QoQ, +43% YoY) โดยคาดว่า GPM จะอยู่ที่ 8.1% (จาก 9.5% ใน 1Q66 และ 5.4% ใน 2Q65) กำไรที่ลดลง QoQ เพราะ i) ค่า Ft เฉลี่ยที่ลดลงมีน้ำหนัก มากกว่าราคาพลังงานที่ลดลง ii) การจ่ายไฟฟ้าของ IPP SRC ลดลง (ไม่ใช้น้ำมันดีเซล) iii) GE เฟส 5 ปิดซ่อมตามแผน 25 วัน iv) ไม่มีเงินปันผล 90 ลบ.จาก RPCL ทั้งนี้ค่า Ft เฉลี่ยเหลือ 1.12 บาท/kWh (-0.42) ขณะที่ราคาก๊าซและถ่านหินของ SPPs เหลือ 455 บาท/mmbtu (-10% QoQ) และ US$327/ton (-15% QoQ) ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากไซยะบุรี (กระแสน้ำเพิ่มขึ้น) และ Avaada (กำลังการผลิตเพิ่ม) เราคาดว่ากำไรที่ลดลง YoY เป็นเพราะดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น, IPP มีกำไรที่ลดลง, และโรงไฟฟ้าไซยะบุรีที่อ่อนลง ถึงแม้จะมีปัจจัยบวกจาก SPPs ที่แข็งแกร่งขึ้น (จากราคาก๊าซที่ลดลง และขึ้นค่า Ft)
จะเป็นอย่างไรต่อไปใน 2H66…?
เราคาดว่า margin โครงการ SPP ของ GPSC น่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับ SPP ของบริษัทอื่นๆ ในกลุ่ม เพราะตามปกติแล้วราคาก๊าซแบบ 2-tier (ราคาก๊าซของ SPP และ SPP Co-gen (ตามหลังอยู่ 1 เดือน)) ดังนั้น ราคาก๊าซรวม (blended gas price) จึงน่าจะตามหลังบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มที่ใช้แต่ราคาก๊าซของ SPP เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ ในส่วนของแนวโน้มใน 3Q66F เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะดีดตัวขึ้น QoQ และขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของปีนี้ เนื่องจากราคาพลังงานลดลงอย่างต่อเนื่อง, เป็นช่วง peak ตามฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และจะมีรายได้เงินปันผลจาก RPCL แม้ว่าค่า Ft จะลดลงมาอยู่ที่ 0.83 บาท/kWh (-0.29) ก็ตาม เราคาดว่ากำไรใน 4Q66F จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และคาดว่า GHECO-One น่าจะกลับมาเปิดดำเนินการไดอีกครั้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาถ่านหิน
Valuation & Action
เราแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 69.00 บาท เราคิดว่าการวิ่งขึ้นของราคาหุ้นอาจจสะดุดเพราะกำไรที่แย่ลงใน 2Q66F และโอกาสที่ตลาดจะปรับกำไรลง ซึ่งทำให้สภาวะตลาดของหุ้น GPSC ดูแย่ลง แต่ในระยะยาว เรามองว่า GPSC จะยังเป็นหนึ่งในหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับปัจจัยการเมือง และยังมี growth story ของตัวเองจากทั้ง Avaada และกระแส EV
Risks ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overruns, และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย