บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Delta Electronics (Thailand) (DELTA.BK/DELTA TB)*
แนวโน้มดี แต่ราคาหุ้นไม่มี upside
Event
ประชุมนักวิเคราะห์, ปรับประมาณการกำไร, ปรับราคาเป้าหมายและคำแนะนำ
Impact
คาดว่ากำไรจะโต YoY ในครึ่งหลังของปีนี้
เราคาดว่ากำไรของ DELTA จะเพิ่มขึ้น YoY ในไตรมาสที่สามและสี่ของปีนี้ เนื่องจาก i) ยอดขายแข็งแกร่ง และ ii) คุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ยอดคำสั่งซื้อในกลุ่ม data center (ประมาณ 30% ของรายได้รวม) ยังดีอยู่ แม้ว่าลูกค้าของบริษัทจะระมัดระวังกับการใช้จ่ายทางด้าน IT ในขณะเดียวกัน ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบที่คลี่คลายลงไป และการเพิ่มกำลังการผลิตจะช่วยหนุนยอดคำสั่งซื้อในกลุ่มยานยนต์ (ประมาณ 25% ของรายได้รวม) ในขณะเดียวกัน การใช้มาตรการคุมต้นทุนจะช่วยให้ค่าใช้จ่ายด้านการขายของบริษัทดีขึ้น ถึงแม้จะยังมีความเสี่ยงอยู่บ้างเกี่ยวกับปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ อย่างเช่นการตั้งสำรอง แต่เราคาดว่าสองปัจจัยบวกข้างต้นจะมีน้ำหนักมากกว่า และช่วยหนุนผลประกอบการใน 2H66
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566-2567F ขึ้นอีก 3-7%
บริษัทยังคงตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายปีนี้เอาไว้ในช่วง 15-20% และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้เอาไว้ในช่วง 22-23% ทั้งนี้ เนื่องจากยอดขายของ DELTA โตถึง 26% YoY ในงวด 1H66 เราจึงคาดว่ายอดขายในปี 2566 ของบริษัทน่าจะโตได้ถึงขอบบนของช่วงเป้าหมาย นอกจากนี้ เรายังได้ปรับสมมุติฐานดังนี้ i) ยอดขาย: ปรับเพิ่มยอดขายปี 2566-2567 ขึ้นอีก 7-8% เป็น 4 พันล้านดอลลาร์ฯ และ 4.6 พันล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็นอัตราการเติบโตของยอดขายปีนี้ที่ 21% และปีหน้าที่ 14% ii) ปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ลง 1ppt เหลือ 22.7% และปี 2567 ลง 70bps เหลือ 23.3% เพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ และเป้าหมายของบริษัท และ iii) ปรับลดสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายปี 2566-2567 ลงจาก 11.6% เหลือ 11.0% โดยสรุปแล้ว เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566F ขึ้นอีก 3% และปี 2567F ขึ้นอีก 7% ซึ่งจะทำให้กำไรของ DELTA โต 21% ในปีนี้ และ 17% ในปี 2567F
Re-rate PER เพื่อสะท้อนภาวะตลาดที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ
เนื่องจากภาวะตลาดดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ i) ความกังวลที่ลดลงในเรื่องการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (ความน่าจะเป็นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของ Bloomberg เริ่มลดลงทำให้ PER ของ NASDAQ สูงขึ้น (Figure 2) และ ii) IMF ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ขึ้นเป็นระลอก เราจึงคาดว่าภาวะตลาดของบริษัทในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของไทยน่าจะดีขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เราจึง r re-rate PER จากเดิม 45.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต +0.5 S.D.) เป็น 64.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต +1.0 S.D.) เพื่อสะท้อนภาวะตลาดที่เป็นบวกดังกล่าวข้างต้น
Valuation & action
เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 100.00 บาท จากเดิมที่ 59.00 บาท อิงจาก PER ที่ 64.0x (ค่าเฉลี่ย ในอดีต +1.0 S.D.) ถึงแม้เราจะมองว่าบริษัทมีแนวโน้มดี และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปีหน้า แต่ราคาปิดล่าสุดเหลือ upside จำกัด ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ”
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2566-67 ที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์ฯ)