บล.บัวหลวง:
Thai Market Strategy – ประเมินผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้า
งบประมาณปี 2567 มีแนวโน้มล่าช้า เนื่องจากประเทศไทยยังไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ความรุนแรงของผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต้องผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉบับต่อไป เราจึงประเมิน 3 สถานการณ์ ที่เป็นไปได้
สรุปขั้นตอนการขออนุมัติงบประมาณ
โดยทั่วไปแล้วการวางแผนงบประมาณจะเริ่มในเดือน ม.ค.-เม.ย. เมื่อแต่ละหน่วยงานรัฐสรุปรายละเอียดงบประมาณแล้ว ก็จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ให้ ครม. อนุมัติรับหลักการกลางเดือน พ.ค. จากนั้นร่างกฎหมายจะถูกส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาเบื้องต้นวาระแรก (ร่างกฎหมายจะถูกจัดทำและนําเสนอ) โดยปกติภายในปลายเดือน พ.ค. หรือต้นเดือน มิ.ย. หากผ่านความเห็นชอบ จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในช่วง เดือน มิ.ย.-ส.ค. สภาลงมติในวาระสอง (การพิจารณาและการแก้ไขโดยละเอียด) และการพิจารณาวาระสามในเดือนส.ค. จากนั้นร่างกฎหมายจะถูกนําเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อลงมติในปลายเดือน ส.ค. โดยปกติแล้วจะถูกส่งให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยในเดือน ก.ย. จากนั้นจึงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ภายใต้สถานการณ์ปกติ กระบวนการนี้จะเสร็จสิ้นก่อนเริ่มต้นงบประมาณใหม่ในวันที่ 1 ต.ค.
ข้อมูลในอดีตชี้การลงทุนของรัฐบาลชะลอตัวหากการเบิกจ่ายล่าช้า
ในกรณีที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า การเบิกจ่ายในส่วนการใช้จ่ายทั่วไป (เงินเดือนข้าราชการ ฯลฯ) กระทบเพียงเล็กน้อย แต่การเบิกจ่ายสาหรับการลงทุนใหม่ของรัฐไม่สามารถทำได้ งบประมาณสําหรับปี 2563 (เริ่มเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2562) ล่าช้าไป 4 เดือน โดยผ่านกฎหมายในเดือนม.ค. 2563 ส่งผลให้การเบิกจ่ายในส่วนการลงทุนของรัฐของงบประมาณคิดเป็น 66.3% ของการเบิกจ่ายปกติ ซึ่งต่ำกว่า (ไม่รวมงบประมาณปี 2563) งบประมาณ 2560-65 เฉลี่ย 5 ปีที่ 67.4%) และในช่วงงบประมาณปี 2563 อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเดือนเพียง 0.6-1.6% MoM (เทียบกับงบประมาณปี 2560-2565 (ไม่รวมงบประมาณปี 2565) เฉลี่ยที่ 3.6-11.9% MoM)
ล่าช้ามาก = ผลกระทบยิ่งรุนแรง
เราประเมิน 3 สถานการณ์ ที่เป็นไปได้จากการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าต่อ GDP ภายใต้สถานการณ์ base-case คาดเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณได้ใน เดือน มี.ค. 2567 (ล่าช้าจากปกติประมาณ 6 เดือน) คาดกระทบประมาณการ GDP ปี 2567 ประมาณ 0.2% ภายใต้สถานการณ์ fast-case ของเรา คาดเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณเร็วสุดได้ในเดือน ม.ค. 2567 คาดกระทบประมาณการ GDP ปี 2567 เพียง 0.03% ภายใต้สถานการณ์ worst-case รัฐบาล ใหม่จะไม่ได้รับการแต่งตั้งจนกว่าจะหมดวาระ ส.ว. ในวันที่ 11 พ.ค. 2567 และคาดเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณอย่างเร็วที่สุดได้ในเดือนก.ย. 2567 อย่างเร็วที่สุดคาดกระทบการเติบโต GDP ปี 2567 ราว 1.4%
เน้นหุ้นคาดกำไรโตเด่น
เราแนะนำเลือกเล่นหุ้นที่กลับสู่ภาวะปกติและมีแนวโน้มรายงานกำไรแข็งแกร่ง เช่น กลุ่มธนาคาร กล่มขนส่ง และกลุ่มท่องเที่ยว กำไรไตรมาส 2/66 (เช่น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม) และการฟื้นตัวของกำไร (กลุ่มบรรจุภัณฑ์และเครื่องดื่ม) จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยกลุ่มก่อสร้าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มค้าปลีกอาจได้รับความเสี่ยงมากที่สุด