บล.ฟิลลิป:
PRM : คาดกำไร 2Q66 +y-y, -q-q จากเรือเข้าอู่
ซื้อ TP’66: 9.20
2Q66 ได้ประโยชน์จากเรือที่ซื้อในระหว่างปี 2565 และที่ซื้อเพิ่ม 1 ลำใน 2Q66 ที่ทำงานเต็มไตรมาส และอัตรา การใช้เรือดีขึ้น รวมถึงการใช้น้ำมันในประเทศฟื้นตัวจากโควิดและท่องเที่ยว ในขณะที่ 2H66 ยังมี high season ของท่องเที่ยว การขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยกำไร 1H66 คิดเป็น 55% ของคาดการณ์ที่ 1,915 ลบ.
งบรวม | 2Q66E | 1Q66 | 2Q65 | % y-y | % q-q | 6M66E | 6M65 | % y-y |
กําไร | 476 | 577 | 199 | 139.8 | -17.5 | 1,053 | 472 | 123.0 |
EPS | 0.19 | 0.23 | 0.08 | 139.8 | -17.5 | 0.42 | 0.19 | 123.0 |
หมายเหตุ: กําไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาด 2Q66 กำไร +139.8% y-y, -17.5% q-q ที่ 476 ลบ.: กำไรที่ดีขึ้น y-y มาจากรับเรือขนาด ใหญ่และเรือทำงานได้เต็มไตรมาส คาดรายได้ +21.4% y-y ที่ 2,068 ลบ. จากขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศปีก่อนรับเรือ VLCC 2 ลำเริ่มงาน 5 มิ.ย. และ 9 ก.ย. 65 เรือ Aframax ได้ค่าระวางเพิ่ม, ขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้นจากการใช้น้ำมันในประเทศที่สูงขึ้น โดยเฉพาะ Jet-A1 และ FSU อัตราการใช้งานเพิ่มขึ้น ส่วนต้นทุนลดลงตามราคาน้ำมัน และขาดทุน Fx ลดลงเหลือ 18 ลบ. และได้มีการชำระคืนเงินกู้เหลือ 24 ล้านดอลลาร์จาก 34 ล้านดอลลาร์ใน 1Q66 ส่วน q-q กำไรที่ลดลง จากเรือเข้า dry dock ของ FSU 1 ลำ และคืนเรือ ABW หลังหมดสัญญาเช่า ในขณะที่ธุรกิจอื่นทรงตัวหรือโตไม่มาก แม้จะมีการรับเรือเพิ่ม 1 ลำ เมื่อรวมขาดทุน Fx จาก 1Q66 มีกำไร Fx ที่ 22 ลบ.
- 2H66 คาดกำไรปกติยังมีแนวโน้มดี: 2H66 ค่าดกำไรปกติยังดีขึ้น y-y จากเรือที่เข้าระหว่างปี 65 และเรือรับใหม่ 1Q66 ทำงานได้เต็มครึ่งหลัง และ 4Q66 เป็น high season ของท่องเที่ยว ปริมาณการขนส่งน้ำมันจะเพิ่มขึ้น และอยู่ระหว่างหาซื้อเรือ 1-2 ลำ แต่เรือ Aframax จะเข้าอู่ใน 4Q66