วันนี้คาดตลาด “Sideway Down”

แนวรับ 1,525 / 1,517 แนวต้าน 1,538 / 1,546 คาดตลาดยังได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดต่างประเทศในประเด็นการปรับลดความน่าเชื่อถือสหรัฐ รวมทั้งการเมืองไทยยังไม่ชัดเจน แต่คาดทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นได้ต่อจะประคองตลาดได้บ้าง

Our View? “น้ำมันช่วยชีวิต”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,525 / 1,517 และแนวต้านที่บริเวณ 1,538 /1,546 คาดตลาดยังคงได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ จากประเด็นการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของสหรัฐจาก AAA ลงสู่ระดับ AA+ ของ Fitch rating โดยกังวลสถานการณ์การคลังสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยลงใน 3 ปีข้างหน้า จากหนี้สินของสหรัฐที่อยู่ที่ระดับเพดานต่อเนื่อง และต้องออกกฎหมายเพิ่มเพดานหลายครั้งเพื่อรอด พ้นปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ กระตุ้นแรงขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดยเมื่อคืนนี้อยู่ที่ระดับ 4.18%+/- กระตุ้นความกังวลต้นทุนทางการเงินในระยะยาวสูงขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งยังลดทอนความน่าสนใจของตลาดหุ้นในแง่ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัย คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่

ขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เมื่อคืนนี้ออกมาอยู่ที่ระดับ 2.27 แสนตำแหน่ง ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ อย่างไรก็ดีดัชนีภาคบริการเดือน ก.ค. ของสหรัฐ โดย ISM ออกมา ฃอยู่ที่ระดับ 52.7 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำกว่าเดือนก่อนหน้า บ่งชี้แนวโน้มการชะลอตัวลงของธุรกิจบริการสหรัฐ คาดกดดันทิศทางตลาดได้เช่นกัน  ทั้งนี้เรายังแนะนำให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน ก.ค. จากกระทรวงแรงงานอีกครั้งในคืนนี้ คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ 2.00 แสนตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราการว่างงานคาดจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 3.6% เพื่อประเมินแนวโน้มในการใช้นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในระยะถัดไป

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ล่วงหน้าส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้ปิดที่ระดับ 8155 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.06 ดอลลาร์ (+2.59%) จากซาอุดิอาระเบียขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน แบบสมัครใจต่อไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. ตามที่เราคาดไว้ ขณะที่รัสเซียจะลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 3 แสนบาร์เรล/วันในเดือน ก.ย. เป็นปัจจัยกระตุ้นความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวต่อไป รวมทั้งยังสะท้อนถึงแนวโน้มผลประชุม OPEC+ ในวันนี้ที่คาดว่าจะยังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายกำลังการผลิตน้ำมัน อีกทั้งอาจมีการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการลดกำลังผลิตมากขึ้นในอนาคต หนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้ต่อ ทั้งนี้เรายังคงมุมมองอุปสงค์น้ำมันก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกเช่นกันจาก 1) เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งและคาดจะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามคาดการณ์ก่อนหน้าของตลาด 2) แนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของ FED คาดจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบฟื้นตัวได้มากขึ้น รวมทั้งยังกดดันทิศทางดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาน้ำมัน 3) แนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในด้านการลงทุนและการบริโภคของจีน หนุนแนวโน้มการนําเข้าน้ำมันดิบเพิ่มเติม คาดจะเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบ-หุ้นในกลุ่มพลังงาน (PTTEP, TOP และ SPRC) ได้ในระยะกลาง

สําหรับปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเชิงลบต่อการเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรีออกมาเป็นช่วงปลายเดือน ส.ค. ช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้มาก และยังเป็นปัจจัย Overhang ตลาดได้อยู่ แม้เราจะคาดว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่เราคาดว่าการจัดท้าจบประมาณรายจ่ายประจําปีล่าช้าออกไปมาก คาดจะไม่ทันปีงบประมาณ 67 ในเดือน ต.ค. และส่งผลให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนล่าช้าออกไปเป็นปัจจัยลบต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกและรับเหมาก่อสร้าง รวมทั้งยังส่งผลให้ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีหน้ามีโอกาสปรับลดลงได้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “PTTEP”

  • ผลประกอบการ 2Q’66 ดีกว่าที่ตลาดคาดเล็กนอ้ย ขณะที่คาดทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดจะหนุนแรงเก็งกำไรได้ต่อ
  • ทางเทคนิค ราคายินเหนือ EMA10 วันได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม MACD และ SSTO เริ่มชะลอกำลังลงบ้างแล้ว แนะนำรอย่อซื้อ
  • กลยุทธ์ รอย่อซื้อ แนวรับ 159.00 / 157.00 Target 170.00 / 175.00 Stop <155.50

- Advertisement -