บล.ทรีนีตี้:
ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล – MINT
แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท / Upside/Downside +28% / Median Consensus 42 บาท
คาดกำไรยังโตต่อเนื่อง YoY และเข้า High Season ของ NH Hotel
- คาดกำไรสุทธิ 2Q66 ที่ 2.9 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิที่ 976 ล้านบาทใน 1Q66 และเติบโต 86.8% YoY
- คาดรายได้ใน 2Q66 ที่ 3.67 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 17.4% QoQ และ 16.6% YoY จากการฟื้นตัวที่โดดเด่นของ NH Hotel
- คาด 3Q66 มีผลการดำเนินงานปกติเติบโตได้ต่อเนื่อง จาก Demand ที่ยังคงแข็งแกร่งในยุโรป ประกอบกับกลุ่มร้านอาหารที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีจากประเทศจีน ที่มีฐานต่ำ
- ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566 ที่ 5.52 พันล้านบาท จากผลประกอบการทุกกลุ่มธุรกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และสามารถทำรายได้สูงกว่าช่วง Pre-COVID
- แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท โดยวิธี SOTP
2Q66 Earnings Preview
- คาด MINT รายงานกำไรสุทธิ 2Q66 ที่ 2.9 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิที่ 976 ล้านบาทใน 1Q66 และเติบโต 86.8% YoY จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่ม NH Hotel ใน 2Q66 โดย NH Hotel ได้รายงานกำไร 2Q66 ที่ 79 ล้านยูโร (2.9 พันล้านบาท)
- คาดรายได้รวมที่ 3.67 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 17.4% QoQ และ 16.6% YoY จากคาดการณ์รายได้กลุ่มโรงแรมที่ 2.76 หมื่นล้านบาท โดย ADR ของกลุ่ม NH Hotel อยู่ที่ 152 ยูโร/คืน เติบโต 18% YoY และสูงกว่าช่วง Pre-COVID ราว 35% และคาด RevPar ของกลุ่มโรงแรมในประเทศปรับตัวลดลงราว 25% QoQ จากการเขาสู่ช่วง Low Season แต่ยังคงเติบโตราว 85% YoY
- คาดรายได้กลุ่มร้านอาหารที่ 7.0 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 5%QoQ แต่สูงขึ้น 15%YoY จากการปรับตัวสูงขึ้นของ TSS ทั้งระบบ และคาด SSS ปรับตัวสูงขึ้น 7% YoY โดยคาดการเติบโตที่ดีจากประเทศจีนที่มีการฟื้นตัวจากฐานต่ำ
ยังคงคาดการณ์กำไรปี 2566-2567
คาดกำไร 1H66 ที่ 1.94 พันล้านบาท คิดเป็น 35% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 5.52 พันล้านบาท โดยใน 2Q66-3Q66 คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นจากช่วง High Season ของ NH Hotel และคาดว่าจะมีกำไรเติบโตได้ YoY หลังจากที่จีนเปิดประเทศ ในขณะที่ต้นทุนค่าไฟคาดว่าเริ่มมีเสถียรภาพและผ่านจุด Peak มาแล้ว ทั้งนี้ MINT ได้ทำการ Lock ราคาต้นทุนไปบางส่วน เพื่อลดความผันผวนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ และยังคงคาดการณ์กำไรปี 2567 ที่ 6.2 พันล้านบาท คิดเป็นการเติบโตที่ 12.5% YoY
ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 40.50 บาท
ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2566 ที่ 40.50 บาท จากการอิงผลประกอบการปี 2566 โดยที่รายได้และกำไรมีการฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2565 ในทุกกลุ่มธุรกิจ หลังจากกิจกรรมต่างๆ เริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติ และความกังวลต่อ Utility, Cost ในยุโรปได้ชะลอตัวลงแล้ว ขณะที่ผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อในยุโรปยังไม่มีผลกระทบต่อ ADR