การเมืองกด Upside / 1,525-1,545
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET แกว่ง Sideways: โดยทางฝ่ายคาดแรงหนุนวันนี้มาจากปัจจัยภายนอก หลัง BofA และ JP Morgan เพิ่มความเชื่อมั่นต่อ เศรษฐกิจสหรัฐว่าปีนี้จะเติบโตได้ท่ามกลางเงินเฟ้อไม่ขยายตัวมากเกินไป และจะไม่เข้าสู่สภาวะถดถอย นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เปิดเผยเชิงบวก โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดแรงงาน โดยอัตราว่างงานเดือนก.ค. ต่ำกว่าคาด 3.6% สู่ระดับ 3.5% รวมถึงค่าจ้างแรงงาน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้น 4.4%y-y ขณะที่ APPLE เผยงบ 2Q66 กำไรเพิ่มขึ้น 2% สู่ 1.98 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ตลาดกังวลต่อยอดขายสมาร์ทโฟนที่หดตัวลงต่อเนื่อง ส่วน VR Headset มองจะทำยอดขายได้ไม่ดี ด้านราคาน้ำมัน WTI ภาคเช้าทดสอบระดับ 83$/bbl รับOPEC+ คงการลดกำลังผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวันไปถึงสิ้นปี มองหนุนต่อกลุ่มพลังงาน สำหรับปัจจัยในประเทศวันนี้คาดแรงหนุนจากการเก็งกำไรในหุ้น Big Cap. ที่คาดงบฯ 2Q66 โดดเด่น นำโดย ADVANC, CPN และ CPALL ตอบรับเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวในภาคท่องเที่ยวและการบริโภคในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ส่วนความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ รวมถึงความเคลื่อนไหวในและนอกสภา ทางฝ่ายมองเป็น Noise ระหว่างทาง ก่อนที่สัปดาห์หน้าศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติรับหรือไม่รับพิจารณามติสภาข้อ 41 เรื่องการเสนอชื่อโหวตนายก ว่าขัดต่อ รธน. หรือไม่ ซึ่งหมายถึงการโหวตเลือกนายกจะมีขึ้นหลังจากนั้นเป็นต้นไป โดยจะเป็นปัจจัยกดดันให้ดัชนีมี Upside จํากัด สําหรับวันนี้ ติดตาม CPI ก.ค. ของไทย คาดจะเผยที่ 0.60%y-y ซึ่งทางหลักยังชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มบริโภคในประเทศ
- กลยุทธ์ลงทุน: คาดงบฯ 2Q66: ADVANC, AMATAV, AP, CK, CPN 2) ราคาน้ำมันขาขึ้น: BCP, PTTEP, SPRC, TOP 3) อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น: BBL, KTB 4) Spending: CBG, CPN, KCE, RS, SAPPE
ปัจจัยบวก
- ญี่ปุ่นส่งออกสินค้าเกษตรสูงเป็นประวัติการณ์ 6 เดือนแรก จากอุปสงค์ที่ฟื้นหลังโควิด นำโดยสินค้าอาหาร เกษตร ป่าไม้ และประมง
- ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนพบปะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ลั่นช่วยเหลือด้านเงินทุน
- จีนผ่อนคลายกฎวีซ่าธุรกิจ อนุญาตให้ยกระดับวีซ่าเพิ่มอายุให้นาน 3 ปี และเปิดพรมแดนหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
- DPA เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสแรก และยังคงอยู่ในระดับเชื่อมั่น โดยมีสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดย ภาพรวมปรับตัวดีขึ้นจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงนโยบายเปิดประเทศของจีน ที่ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจลดลง
ปัจจัยลบ
- ซีเอ็นบีซีรายงานภัยแล้งในยุโรปไม่เพียงก่อให้เกิดไฟป่าและความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางอาหารเท่านั้น แต่ยังคุกคามการขนส่งทางน้ำของยุโรป เนื่องจากระดับน้ำที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
- สถานการณ์ในทะเลดำเดือดไม่มีพัก ล่าสุดยูเครนส่งโดรนโจมตีทางทะเลถล่ม “โนโวรอสซีสค์” ท่าเรือขนส่งสินค้าใหญ่สุดของรัสเชีย ดันราคาธัญพืชพุ่งขึ้นอีกทั่วตลาดโลก
- ที่ประชุมร่วมกับของรัฐสภา เลื่อนการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 272 เนื่องจากกรณีดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
PICKS OF THE DAY
KCE BUY
- เป้าหมาย 44.75/46.00 แนวรับ 41.00/42.25
- ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปออกมาดี: หลังจากยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนในเดือน ก.ค. โดย CPI ลดลงสู่ระดับ 5.3% จากระดับ 5.5% ในเดือน มิ.ย. ส่วน GDP ยูโรโซนขยายตัว 0.3% ใน 2Q66 สูงกว่าที่คาด ทำให้หุ้นกลุ่มที่มีรายได้ที่มาจากยุโรปปรับตัวขึ้นคึกคัก โดยเฉพาะ KCE ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ในภูมิภาคยุโรปกว่า 50% ของรายได้รวมถือว่าสูงกว่าDeltaและHANAรวมไปถึงอุตฯอื่นๆ ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงนี้
- ได้ประโยชน์ค่าเงิน: เงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นในปัจจุบันยังทำให้ KCE ได้ประโยชน์สูงสุดหากเทียบกับ Hana และ delta เนื่องจากเป็น natural hedge โดยการเปลี่ยนแปลงทุก 1 บาท/ดอลลาร์ มีผลต่อกำไรสุทธิประมาณ 15%
PTTEP BUY
- เป้าหมาย 166.00/170.00 แนวรับ 158.00/160.00
- น้ำมันดิบดูไบปรับเพิ่มต่อเนื่อง: ราคาน้ำดิบดูไบเฉลี่ยยังคงปรับเพิ่มขึ้นจาก 83.8 USD/bbl ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ค. เป็น 85.7 USD/bbl ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ส.ค. และเพิ่มขึ้น 10% จากค่าเฉลี่ยไตรมาส 2 ที่ระดับ 77.6 USD/bbl ประกอบกับล่าสุดรัฐบาลซาอุดีอาระเบียประกาศต่ออายุการลดกำลังการผลิตวันละ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงเดือน ก.ย. จากแนวโน้มน้ำมันขาขึ้น ทางฝ่ายมองมีโอกาสเห็นผลประกอบการครึ่งปีหลังดีมากกว่าคาด
- ปันผลน่าสนใจ : ทางฝ่ายคาดจ่ายปันผลทั้งปี 9.49 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 5-6% โดยปัจจุบันบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลวันที่ 29 ส.ค.66 4.25 บาทต่อหุ้น และขึ้น XD วันที่ 15 ส.ค.66