บล.บัวหลวง:
Technology – เจาะกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (OVERWEIGHT)
แม้ว่าราคาหุ้นเล็กกลุ่มเทคโนโลยีจะปรับตัวลง เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มของธุรกิจ โดยเราคาดจะเห็นกำไรหลักที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งสําหรับไตรมาส 2/66 และครึ่งหลังของปี 2566
ผู้นำการเติบโตในไตรมาส 2/66-SABUY HUMAN NETBAY และ DITTO
เราคาด 4 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เราให้คำแนะนำจะรายงานกําไรหลักที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 2/66 (มากกว่า 30% YoY) SABUY จะรายงานกําไรหลักที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสนี้ โดยหนุนจากการรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยจํานวนมาก งานในมือและงานที่กำลังเจรจาขนาดใหญ่ของ DITTO คาดว่าจะหนุนการเติบโตของกำไรหลักในไตรมาส 2/66 ทั้งในธุรกิจนวัตกรรม วิศวกรรม และการจัดการเอกสารดิจิทัล เราคาด HUMAN จะ รายงานการเติบโตของกำไรหลักอย่างแข็งแกร่ง โดยหนุนจาก DataOn และธุรกิจ HCM เราคาดกำไรของ NETBAY ในไตรมาส 2/66 จะเห็นการเติบโตของรายได้ที่มั่นคง หนุนจากระบบการจัดการเอกสาร (Total Document Handling)
ใครจะเป็นผู้นําการเติบโตในไตรมาส 3/66
เราคาด TBN และ YGG จะเป็นผู้นำการเติบโตในไตรมาส 3/66 (ขึ้นทั้ง YoY และ QoQ) YGG จะเปิดตัวเกมใหม่อย่างน้อยหนึ่งเกมในไตรมาส 3/66 และอีก 2 เกมในไตรมาส 4/66 นอกจากนี้ จะรับรู้รายได้จากโครงการ VFX และอนิเมชันที่เลื่อนออกมาก่อนหน้านี้เข้ามาในไตรมาส 3/66 แม้ว่า TBN จะอ่อนตัวตามฤดูกาลในไตรมาส 2/66 แต่เรามั่นใจต่อภาพที่แข็งแกร่งของแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในครึ่งหลังของปี 2566 เราคาดผลประกอบการในไตรมาส 2/66 ของ TBN จะเป็นจุดต่ำสุด หลังจากนั้นจะเห็นกําไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/66 และ 4/66 นอกจากนี้ ขณะนี้ TBN อยู่ระหว่างการขออนุมัติ BOI ซึ่งหากได้รับอนุญาตอาจทำให้ประหยัดภาษีได้ 10 ล้านบาท/ปี (เป็นอัพไซด์ต่อกำไร 10%) นอกจากนี้ HUMAN เห็นกําไรหลักที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/66 หนุนจากการเลื่อนในการรับรู้รายได้สําหรับโครงการ ERP ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 มาเป็น 3/66
ปรับคําแนะนําสําหรับหุ้นบางตัว
ในรายงานฉบับนี้ เราได้ปรับค่าแนะนำบริษัทสำหรับหุ้นเทคโนโลยี สําหรับบริษัทเทคโนโลยีรุ่นเก๋าอย่าง NETBAY และ BOL ธุรกิจของบริษัทยังคงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จากรายได้ด้านธุรกรรม ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิสูงสุดในกลุ่มเทคโนโลยีที่เราให้คําแนะนํา อย่างไรก็ตาม มุมมองในการเติบโตของบริษัทค่อนข้างจำกัด (ราว 10%) ทั้งนี้เพื่อดึงดูดนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราต้องหาปัจจัยหนุนใหม่ๆ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะหยุดให้คําแนะนำกับทั้งสองบริษัท ในตอนนี้ สําหรับ SABUY โมเดลธุรกิจที่ซับซ้อนและกลยุทธ์การขยายธุรกิจเชิงรุกสร้างความท้าทายให้กับนักลงทุนในการคาดการณ์การเติบโตให้ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ กำไรสุทธิไตรมาส 2/66 จะอ่อนแอ แม้ว่ากําไรหลักจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็อาจทำให้นักลงทุนบางส่วนผิดหวังได้ ทั้งนี้เราได้ปรับ PER จาก 30 เท่ามาที่ 20 เท่า และปรับราคาเป้าหมายเป็น 12.50 บาท ท้ายสุด เราปรับคําแนะนําของ IIG จาก “ขาย” ไปเป็น “ซื้อเก็งกำไร” หลังจากที่เราปรับลดครั้งก่อนในเดือนก.พ. ราคาหุ้นของ IIG ได้ลดลงอย่างมากราว 60% เราเชื่อว่ากำไรของบริษัทจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/66 ตามด้วยการฟื้นตัวในไตรมาส 3/66-4/66