บล.พาย:
TFM บมจ. ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์
2Q23 เริ่มเห็นผลดีจากการปรับกลยุทธ์
2Q23 TFM มีกำไรสุทธิ 48 ล้านบาท +42%YoY และพลิกจากที่ขาดทุน 28 ล้านบาทใน 1Q23 เป็นผลจากการปรับแผนใหม่ของบริษัทที่หันมาเน้นสินค้าที่มีกำไรสูงมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารกุ้งที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 15%YoY, 28%QoQ ส่วนรายได้จากต่างประเทศยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะปากีสถานที่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของราคาปลาในประเทศ ด้านอินโดนีเซียรายได้ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นหลังมีการเร่งทำการตลาดเพื่อหาลูกค้า สำหรับแนวโน้มในช่วง 2H23 ทาง TFM ยังคงเน้นสินค้าในกลุ่มอาหารกุ้งและอาหารปลากระพงมีอัตรากำไรสูงผ่านการทำการตลาดเพิ่ม ทั้งนี้กำไรสุทธิในช่วง 1H23 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 17% แต่ด้วยผลประกอบการที่ฟื้นตัวเราจึงคงประมาณการกำไรทั้งปีไว้ที่ 116 ล้านบาท (+6%YoY) และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม
2Q23 มีกำไรสุทธิ 48 ล้านบาท
- TEM รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q23 48 ลบ. +42%YoY และพลิกจากที่ขาดทุน 28 ล้านบาทใน 1Q23 ถ้าไม่รวมรายการพิเศษอย่างการตัดจำหน่ายฟาร์มกุ้งที่จ.ตรัง หลังใช้สิทธิ BOI ครบแล้ว และรายการอื่นๆ กว่า 12 ล้านบาท กำไรปกติจะอยู่ที่ระดับ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 283%YoY การฟื้นตัวดังกล่าวเกิดจากผลดีของการปรับ การขายที่เน้นสินค้าที่มีกำไรสูง เพื่อชดเชยการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ
- รายได้อยู่ที่ 1,344 ลบ. (+5%YoY,+17%QoQ) โดยธุรกิจอาหารกุ้งเติบโตโดดเด่น (+15%YoY, +28%QoQ) ขณะที่อาหารปลาลดลง 9%YoY เพราะปรับลดสินค้าที่มีกำไรต่ำออกไป แต่ฟื้นตัว 8%QoQ หลังอาหารปลากระพงขายดีขึ้น ส่วนบริษัทที่ต่างประเทศฟื้นตัวดีที่ประเทศอินโดนีเซีย (TUKL) จากฐานที่ต่ำและการเร่งทำการตลาด ขณะที่ประเทศปากีสถานรายได้ลดลง 56%YoY เพราะยอดขายอาหารปลาลดลงหลังราคาปลาในประเทศตกต่ำ อย่างไรก็ตามทาง บริษัทเพิ่มการขายอาหารสัตว์บกทำให้รายได้เพิ่ม 15 %QoQ
- กำไรขั้นต้น 9% เทียบกับ 7% ใน 2Q22 และ 4% ใน 1Q23 เป็นผลจากการปรับสัดส่วนสินค้าเน้นที่มีกำไรมากขึ้น เห็นได้จากสัดส่วนอาหารกุ้งมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 61% แล้วจากระดับ 5 6% ในปีก่อน ส่วน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารทรงตัวจาก 1Q23 ที่ระดับ 94 ลบ. (+5% YoY)
ยังดำเนินแผนเดิม เน้นสินค้าที่มีกำไรเป็นหลัก
- จากปัญหาต้นทุนอาหารสัตว์ที่ยังคงยืนในระดับสูง โดยเฉพาะปลาป่น แม้กากถั่วเหลืองกับข้าวสาลีจะเริ่มเห็นการอ่อนตัวลง แต่หากเทียบกับอดีตยังถือว่าสูงอยู่ ทำให้กลยุทธ์ของ TFM ยังคงเน้นการขายสินค้าที่มีกำไรสูงอย่างอาหารกุ้งและปลากระพงเป็นหลัก ผ่านการทำการตลาดเพื่อหาลูกค้าเพิ่ม ซึ่งเริ่มเห็นผลดีตั้งแต่ 2Q23 ที่ผ่านมา
คงประมาณการเดิมหลัง 2Q23 เริ่มดี
- แม้กำไรสุทธิในช่วง 1H23 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 17% ของกำไรทั้งปีที่เราประเมินไว้ที่ 116 ล้านบาท แต่ด้วยแนวโน้มที่เริ่มดีขึ้นใน 2Q23 ทำให้เรามองว่าระดับกำไรดังกล่าวยังมีความเป็นไปได้อยู่ เราจึงคงประมาณการกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิม
- คำแนะนำการลงทุน ด้วยแนวโน้มผลประกบการที่เริ่มเห็นการฟื้นตัว หลังปรับกลยุทธ์ใหม่ เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่า เหมาะสมที่ 10.1 บาท (2XPBV’23E)
Revenue breakdown
โครงสร้างรายได้ของ TFM แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ 1.อาหารกุ้ง 2.อาหารปลา และ 3 อาหารสัตว์บก โดยรายได้ส่วน ใหญ่เป็นการขายในประเทศกว่า 90% และมีรายได้จากบริษัทย่อย 2 แห่งในต่างประเทศ ได้แก่ AMG-TFM ประเทศปากีสถานทำธุรกิจอาหารปลาและอาหารสัตว์บก และ TUKL ประเทศอินโดนีเซียทำธุรกิจอาหารกุ้ง
