บล.บัวหลวง:
Com7 (COM7 TB /COM7.BK)
COM7 – กำไรเป็นไปตามคาด
กําไรหลักเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด
COM7 รายงานกำาไรหลักไตรมาส 2/66 ที่ 730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY แต่ลดลง 17% QoQ (ปัจจัยฤดูกาลและผลกระทบจากการปรับปรุงร้าน) ผลประกอบการเป็นไปตามที่เรา แต่ต่ำกว่าตลาดคาด 4% อิงจาก Bloomberg หากรวมถึงผลขาดทุนพิเศษก่อนหักภาษีจากการขายและการประเมินมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์ NCAP-W1 ใน Next Capital Plc (COM7 ถือ หุ้น 34% ใน NCAP) จํานวน 31 ล้านบาท บริษัทรายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2/66 ที่ 704 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY แต่ลดลง 19% QoQ
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
บริษัทรายงานยอดขาย 15,990 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 11% YoY แต่ลดลง 7% QoQ ยอดขายสาขาเดิมของ COM7 ในไตรมาส 2/66 เติบโตที่ 10% แต่ในบันทึกคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ (MD&A) กล่าวว่าในการคํานวณไม่รวมร้าน iStudio 40 แห่ง และร้านในห้างสรรพสินค้า 2 แห่งที่ปิดปรับปรุงชั่วคราวในระหว่างไตรมาส ผู้บริหารประเมินว่าการปรับปรุงร้านส่งผลให้ยอดขายในไตรมาส 2/26 ลดลง 1.1 พันล้านบาท (ร้านค้าทั้งหมดจะเปิดอีกครั้งในไตรมาส 3/66) จากการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่งในไตรมาส 2/66 COM7 จึงมีจํานวนสาขาทั้งสิ้น 1,287 แห่ง เพิ่มขึ้น 8% YoY (ทรงตัว QoQ)
อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 14.5% เพิ่มขึ้นจาก 13.2% ในไตรมาส 2/65 และ 13.8% ในไตรมาส 1/66 อัตรากําไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากยอดขายสมาร์ทโฟน Android ที่สูงขึ้น (อัตรากำไรค่อนข้างดีกว่า iPhone)
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 25% YoY และ 8% QoQ นอกจากค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้นแล้ว COM7 ยังบันทึกการด้อยค่า UFund ที่ 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 233% YoY
แนวโน้ม
หากมองการเปิดตัว iPhone15 ในประเทศไทยในเดือนก.ย. 2566 เราคาดว่า COM7 จะรายงานกําไรเติบโต YoY และ QoQ ในไตรมาส 3/66
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กําไรหลักในครึ่งแรกของปี 2566 อยู่ที่ 1,604 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 14% YoY) คิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 3,344 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนในอดีตในครึ่งแรกของปี ซึ่งคิดเป็น 45% ของประมาณการกำาไรทั้งปี การคาดการณ์ของเราไม่เปลี่ยนแปลง
คําแนะนํา
ปัจจุบันคุ้นชื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ 19.6 เท่า ซึ่งยังคงต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 22.1 เท่า อย่างไรก็ตาม เรามีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการด้อยค่าของ UFund และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ติดลบในช่วงครึ่งแรกของ ปี 2566 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันค่อนข้างสูง