PCC โชว์งบ 6 เดือนแรกปีนี้สุดแกร่ง! กำไรโต 24.88% งานติดตั้งอุปกรณ์ระบบศูนย์สั่งจ่ายไฟคึกคัก โชว์ Backlog กว่า 4,495.73 ลบ. หนุนผลงานโตต่อเนื่อง
บมจ. พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น (PCC) โชว์ผลงานไตรมาส 6 เดือนแรกปีนี้สุดแกร่ง กวาดรายได้รวม 2,240.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.74% และมีกำไรสุทธิ 167.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลง กลุ่มสินค้าปรับแรงดัน และงานโครงการจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟสนับสนุน ฟากซีอีโอ “กิตติ สัมฤทธิ์” มั่นใจรายได้ปีนี้โตต่อเนื่อง หลังเพิ่มกำลังการผลิตผลิตหม้อแปลง อุตสาหกรรมสมาร์ทกริดโต โชว์ Backlog แน่นกว่า 4,495.73 ล้านบาท
นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PCC) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงาน บริษัทฯรายได้รวม 6 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2566) อยู่ที่ 2,240.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 513.67 ล้านบาท หรือ 29.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,726.98 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 167.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.43 ล้านบาท หรือ 24.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 134.36 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,188.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.96% เทียบจากช่วงปีก่อนที่มีรายได้รวม 943.21 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 84.99ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.30% เทียบจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 61.90 ล้านบาท
“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังคงมีอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลง เครื่องมือวัดแรงดันและกระแส, กลุ่มสินค้าปรับแรงดัน และป้องกันกระแสและแรงดันเกินพิกัด สวิตช์ตัดตอน และอุปกรณ์ฉนวน ในระบบจำหน่าย และกลุ่มโคมไฟแอลอีดีให้กับกลุ่มลูกค้าภาครัฐ และเอกชนเพิ่มขึ้น และจากงานโครงการจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ และสัญญาจ้างจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Feeder Device Interface (FDI) และอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร และจากงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และจากงานปรับปรุงคุณภาพเครื่องบดถ่านหินของโรงไฟฟ้า”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ PCC คาดว่ารายได้ปีนี้น่าจะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,860 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯมองเห็นโอกาสใหม่ๆและการเติบโตของรายได้จากการเพิ่มกำลังการผลิตของหม้อแปลงไฟฟ้า และการขยายตัวของระบบสมาร์ทกริด