บล.บัวหลวง:
Global Power Synergy (GPSC TB/GPSC.BK)
GPSC – ผลประกอบการไตรมาส 2/66 อ่อนแอ แต่คาดปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 2566
ต่ำกว่าคาดมาก
GPSC รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 309 ล้านบาท ลดลง 55% YoY และ 72% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 277 ล้านบาท ลดลง 52% YoY และ 74% QoQ ซึ่งทั้งกำไรสุทธิและกำไรหลักต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดอย่างมาก (อัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด เนื่องจากต้นทุนถ่านหิน และก๊าซที่สูงกว่าคาดของกลุ่ม SPP และการบันทึกขาดทุนจากการปรับสต็อกถ่านหินของโรงไฟฟ้า Gheco-One)
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
รายได้ปรับตัวลง 17% YoY (ไม่มีการจ่ายไฟที่โรงไฟฟ้า SRC และ Gheco- One) และ 17% QoQ (การจ่ายไฟจากโรงไฟฟ้า IPP ที่ลดลงและราคาไฟฟ้า และราคาไอน้ำของโรงไฟฟ้า SPP ที่ลดลง) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 7.6% เพิ่มขึ้นจาก 5.4% ในไตรมาส 2/65 เนื่องจากราคาไฟฟ้าและไอน้ำที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากําไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มขึ้น ในขณะที่การไม่จ่ายไฟของโรงไฟฟ้า IPP ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตรากําไรขั้นต้นลดลงจาก 9.5% ในไตรมาส 1/66 เนื่องจากโรงไฟฟ้า IPP Gheco- One มีค่าใช้จ่ายในการปรับสต็อกถ่านหินทางบัญชี และโรงไฟฟ้าถ่านหิน SPP จ่ายไฟเพิ่มขึ้น QoQ ในขณะที่ต้นทุนถ่านหินลดลงช้ากว่าอัตราค่าไฟฟ้า ส่วนแบ่งกําไรลดลง 60% YoY (การจ่ายไฟที่ XPCL ที่ลดลง) แต่เพิ่มขึ้น 55% QoQ (การจ่ายไฟที่ XPCL ที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล) อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 1.3% ลดลงจาก 2.5% ในไตรมาส 2/65 และ 4.0% ในไตรมาส 1/66
แนวโน้ม
เราคาดว่ากําไรหลักไตรมาส 3/66 จะปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY (ต้นทุนก๊าซที่ลดลงจะกลบผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ลดลง) และ QoQ (กำไรที่สูงขึ้น จาก XPCL ตามปัจจัยฤดูกาล)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เมื่อนําผลประกอบการไตรมาส 2/66 เข้าสู่ประมาณการของเรา เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2566 ลง 33% มาอยู่ที่ 3,831 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 360% YoY เราจึงปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ลงจาก 88 บาท เหลือ 80 บาท
คําแนะนํา
เราคาดว่ากําไรหลักในครึ่งหลังของปี 2566 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หนุนโดยราคาก๊าซและถ่านหินที่ลดลง และการจ่ายไฟจาก XPCL ที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล นอกจากนี้ แนวโน้มระยะยาวยังคงดี ดังนั้นเรายังคงคำแนะนำ ชื้อ