บล.บัวหลวง: 

Land and Houses (LH TB/LH.BK)

LH – เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด; แนวโน้มกำไรครึ่งหลังของปี 2566 น่าตื่นเต้น

กําไรหลักเป็นไปตามคาด

LH รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 1.45 พันล้านบาท ลดลง 32% YoY แต่เพิ่มขึ้น 7% QoQ หากไม่รวมขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์และอัตราแลกเปลี่ยนที่ 12 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 1.46 พันล้านบาท ลดลง 26% YoY และ 1% QoQ ซึ่งกำไรหลักเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด LH ประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับครึ่งแรกของปี 2566 ที่ 0.20 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่ 2.4% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 8 ก.ย.)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กําไรหลักที่ลดลง YoY และ QoQ เนื่องจากต้นทุนทางอ้อมและรายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยที่ลดลงและสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่สูงขึ้น ยอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท (แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 92% และโครงการคอนโด 8%) ลดลง 40% YoY แต่เพิ่มขึ้น 4% QoQ ยอดขายโครงการแนวราบอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท ลดลง 37% YoY แต่เพิ่มขึ้น 1% QoQ ยอดโอนโครงการคอนโดอยู่ที่ 411 ล้านบาท ลดลง 61% YoY แต่เพิ่มขึ้น 42% QoQ รายได้ธุรกิจให้เช่าและบริการอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% YoY และทรงตัว QoQ เนื่องจากช่วงไฮซีซันของธุรกิจโรงแรมและห้างสรรพสินค้า อัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ในไตรมาสนี้ที่ 29.0% ลดลง 450bps YoY แต่เพิ่มขึ้น 30bps QoQ เนื่องจากยอดขายที่ลดลง ในขณะที่ต้นทุนคงที่ยังคงเท่าเดิม อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ในระดับสูงที่ 22.1% เพิ่มขึ้น 750bps YoY แต่ลดลง 360bps QoQ (รายได้ที่เพิ่มขึ้น) รายได้จากส่วนแบ่งธุรกิจอยู่ที่ 817 ล้านบาท (ส่วนใหญ่ส่วนแบ่งกำไรมาจาก HMPRO และ LHFG) เพิ่มขึ้น 26% YoY แต่ลดลง 4% QoQ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิทรงตัวอยู่ที่ 1.2 เท่า ณ สิ้นเดือน มิ.ย.

แนวโน้ม

กําไรหลักไตรมาส 3/66 มีแนวโน้มลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ เราคาดยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยจะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ (จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 2/66) อัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยจะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ เราคาดว่าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กําไรหลักครึ่งแรกของปี 2566 คิดเป็น 38% ของประมาณการปี 2566 ของเรา (และ 35% ของประมาณการตลาด) ที่ 7.8 พันล้านบาท (ลดลง 4.3% YoY) ซึ่งเราคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เราคาดว่ายอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 2.63 หมื่นล้านบาท (ลดลง 15% YoY) และรายได้ประจำ 7.6 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 168% YoY) ในปี 2566 LH จะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว 4 โครงการและโครงการคอนโด 1 โครงการ มูลค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 3/66 และมีแผนเริ่มโครงการอีก 1.5 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/66 ดังนั้นยอดจองซื้อและกำไรจะเติบโตในไตรมาส 3/66 ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/66 (ไตรมาสที่ดีที่สุดของปี) นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/66 LH มีแผนที่จะขายโรงแรม 2 แห่งในพัทยา มูลค่า 9.8 พันล้านบาท ให้กับ LHHOTEL REIT ซึ่งเราคาดว่าจะสร้างกำไรได้ 2-3 พันล้านบาท; การขายดังกล่าวถือเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการปี 2556 ของเรา

คําแนะนํา

เราแนะนำเข้าซื้อ LH สำหรับแนวโน้มในครึ่งหลังของปี 2566 ที่แข็งแกร่งและเราคาดว่าจะได้รับผลตอบแทน จากเงินปันผลที่ดีในปี 2566 ที่ 6.6% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ 12.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 14.2 เท่าอยู่ 9% เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ด้วยวิธี SOTP ที่ 10 บาท

- Advertisement -