บล.บัวหลวง:
Thaifoods Group (TFG TB/TFG.BK)
TFG – ต่ำกว่าคาด; ไตรมาส 3/66 มีแนวโน้มพลิกกลับ ไปเป็นขาดทุนสุทธิ
กําไรหลักต่ำกว่าคาด
TFG รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 69 ล้านบาท ลดลง 94% YoY และ 84% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาส 2/66 ได้แก่ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 15 ล้านบาท ขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ 31 ล้านบาท ขาดทุนจากการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ 27 ล้านบาท และขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน 87 ล้านบาท กำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 229 ล้านบาท ลดลง 85% YoY และ 55% QoQ กำไรสุทธิต่ำกว่าที่เราคาด 54% เนื่องจากรายการค่าใช้จ่ายข้างต้น (ซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการก่อนหน้าของเรา) กำไรหลักต่ำกว่าคาด 8% เนื่องจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่าคาด ในส่วนของยอดขายอัตรากำไรขั้นต้น กำไรขั้นต้น และกําไรจากการดำเนินงานถือว่าเป็นไปตามที่เราคาด อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ที่ 9.5% ถือว่าลดลงจาก 22.3% ในไตรมาส 2/65 และ 12.8% ในไตรมาส 1/66 (ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับที่เราคาดก่อนหน้า) ภาระดอกเบี้ยจ่ายสูงกว่าที่เราคาด 20%
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
กําไรหลักที่ปรับตัวลดลงแรง YoY เนื่องมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวลดลงแรง (วอลุ่มขายไก่ที่ลดลงและราคาขายหมูเฉลี่ยที่ลดลง) บวกกับภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด กลบยอดขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง และสําหรับในไตรมาส 2/66 ราคาตลาดสําหรับหมูไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 79 บาท/กก. ลดลง 19% YoY และ 10% QoQ และราคาตลาดสําหรับไก่ไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 42.8 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 5% ทั้ง YoY และ QoQ รายได้จากธุรกิจไก่ของ TFG ใน ไตรมาสนี้อยู่ที่ 4.35 พันล้านบาท ลดลง 25% YoY และ 6% QoQ ซึ่งมีปัจจัยกดดันจากวอลุ่มขายไก่ที่ลดลง (5.46 หมื่นตัน ลดลง 26% YoY และ 12% QoQ) ในขณะที่ราคาขายไก่เฉลี่ยของ TFG ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 59.6 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 1% YoY และทรงตัว QoQ รายได้จากธุรกิจหมูของ TFG ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.82 พันล้านบาท ลดลง 7% YoY และ 9% QoQ เนื่องจากราคาขายหมูที่ลดลง กลบวอลุ่มขายหมูที่เพิ่มขึ้น (2.74 หมื่นต้น เพิ่มขึ้น 13% YoY แต่ลดลง 1% QoQ) ราคาขายหมูเฉลี่ยของ TFG ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 69.9 บาท/ กก. ลดลง 30% YoY และ 14% QoQ รายได้จากธุรกิจร้านค้าปลีก (หรือไทย ฟู้ดส์ เฟรช มาร์เกต) ปรับตัวขึ้นแรง 163% YoY และ 14% QoQ ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการขยายสาขาเพิ่ม (287 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 2/66 เทียบกับ 132 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 2/65 และ 239 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 1/66)
กําไรจากการดำเนินงานของธุรกิจไก่ในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลง 76%YoY ในขณะที่ธุรกิจหมูรายงานผลขาดทุนจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ 3 ล้านบาท ซึ่งพลิกกลับ YoY จากกำไรจากการดำเนินงาน 769 ล้านบาทในไตรมาส 2/65 กําไรจากการดำเนินงานของธุรกิจอาหารสัตว์ในไตรมาสนี้ลดลง 24% YoY มีเพียงแค่ธุรกิจร้านค้าปลีกเท่านั้นที่ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น โดยพลิกกลับจากขาดทุนจากการดำเนินงาน 218 ล้านบาทในไตรมาส 2/65 ไปเป็นกำาไรจากการดำเนินงาน 82 ล้านบาทในไตรมาส 2/66 (และเพิ่มขึ้น 75% QoQ) ถ้าเปรียบเทียบ QoQ มีเพียงธุรกิจหมูเท่านั้นที่จุดผลประกอบการ โดยรวมในไตรมาส 2/66 ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจอื่นๆ (ซึ่งได้แก่ ธุรกิจไก่ ธุรกิจอาหารสัตว์ และธุรกิจร้านค้าปลีก) ปรับตัวดีขึ้น
แนวโน้ม
ราคาตลาดสําหรับหมูไทยเฉลี่ยปรับตัวลดลงจาก 78-82 บาท/กก. (ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.) เหลือ 59-65 บาท/กก. (ช่วงกลางเดือนก.ค.-ต้นเดือนส.ค.) และราคาหมูไทยเฉลี่ยนับตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/66 จนถึงปัจจุบัน (1 ก.ค.-9 ส.ค.) อยู่ที่ 64 บาท/กก. เราจึงคาดราคาหมูไทยเฉลี่ยที่ 62 บาท/กก. สำหรับในไตรมาส 3/66 ลดลง 40% YoY และ 22% QoQ นอกจากนี้แล้ว เนื่องจากราคาไก่ไทยเฉลี่ยนับตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/66 จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 42.5 บาท/กก. เราจึงคาดราคาไก่ไทยเฉลี่ยที่ 41 บาท/กก. สำหรับในไตรมาส 3/66 ลดลง 12% YoY และ 4% QoQ และเนื่องจากราคาหมูไทยที่ปรับตัวลดลงแรงมาก และราคาไก่ไทยที่อ่อนตัวลงในไตรมาส 3/66 เราจึงคาดว่าธุรกิจหมูของ TFG ในไตรมาส 3/66 มีแนวโน้มรายงานขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ และธุรกิจไก่ของ TFG มีแนวโน้มรายงานกำไรที่ลดลง QoQ โดยภาพรวมแล้ว เรามองว่าธุรกิจหมูจะเป็นตัวฉุดผลประกอบการบรรทัดสุดท้ายให้พลิกจากกำไรสุทธิไปเป็นขาดทุนสุทธิสำหรับในไตรมาส 3/66 เราคาดขาดทุนหลักที่ 300 ล้านบาทในไตรมาส 3/66 พลิกกลับ YoY และ QoQ จากกำไรหลักที่ 1.84 พันล้านบาทในไตรมาส 3/65 และกำไรหลัก 229 ล้านบาทในไตรมาส 2/66
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิสำหรับปี 2566 ไว้เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
คําแนะนํา
ถึงแม้ว่าเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” สำหรับหุ้น TFG แต่เรามองว่ายังคงไม่ต้องเร่งรีบเข้าลงทุนในหุ้น TFG แต่อย่างใด ตราบเท่าที่ราคาหมูไทยยังคงไม่เห็นสัญญาณของการฟื้นตัว