บล.บัวหลวง:
GFPT (GFPT TB/GFPT.BK)
GFPT – สูงกว่าคาด; ไม่มีไฮซีซั่นในไตรมาส 3/66
กำไรสุทธิและกำไรหลักมากกว่าเราคาด
GFPT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 349 ล้านบาท ลดลง 23% YoY แต่เพิ่มขึ้น 17% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ 2 รายการในไตรมาส 2/66 ได้แก่ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 40 ล้านบาท และขาดทุนจากการ ป้องกันความเสี่ยงอนุพันธ์ 25 ล้านบาท กำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 334 ล้านบาท ลดลง 31% YoY แต่เพิ่มขึ้น 41% QoQ กำไรสุทธิและกำไรหลักมากกว่าที่เราคาด 9% และ 12% ตามลำดับ เนื่องจากยอดขายและรายได้อื่น ที่มากกว่าคาด และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาดเล็กน้อย ยอดขายสูงกว่าที่เราคาด 5% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 11.7% ซึ่งถือว่าสูงกว่าประมาณการของเราก่อนหน้าที่ 11.5% เพียงเล็กน้อย (และเทียบกับ 16.2% ในไตรมาส 2/65 และ 10.4% ในไตรมาส 1/66) กําไรหลังหักภาษีมากกว่าเราคาด 21% กำไรจากแม็คคีย์ต่ำกว่าที่เราคาด 15% แต่กำไรสุทธิของจีเอฟเอ็นที่ 31 ล้านบาทถือว่าสูงกว่าประมาณการของเราก่อนหน้าที่คาดเป็นกำไรสุทธิ 1 ล้านบาท และถ้าหักกลบกันส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ทั้งหมดถือว่าใกล้เคียงกับประมาณการของเราก่อนหน้า
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
กําไรหลักที่ปรับตัวลงแรง YoY เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวลดลง (จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น วอลุ่มขายชิ้นส่วนในประเทศที่ลดลง และราคาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนในประเทศที่ปรับตัวลดลง) และส่วนแบ่งกําไรจากจีเอฟเอ็นที่ลดลง (เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนในประเทศที่ปรับตัวลดลง) ซึ่งกลบยอดขายที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งและส่วนแบ่งไรจากแม็คคีย์ที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด เราเห็นการฟื้นตัวของกำไรหลักที่แข็งแกร่ง QoQ ในไตรมาส 2/66 หนุนโดยช่วงไฮซีซั่น อัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น รายได้อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น และการพลิกกลับมาเป็นกำไรของจีเอฟเอ็น วอลุ่มส่งออกของ GFPT ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 8.3 พันตัน เพิ่มขึ้น 11% YoY และ 20% QoQ ในขณะที่ราคาไก่ส่งออกเฉลี่ยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 4,500 เหรียญ/ตัน เพิ่มขึ้น 3% YoY แต่ลดลง 5% QoQ ราคาไก่ส่งออกเฉลี่ยไปยังญี่ปุ่นและยุโรป ในไตรมาส 2/66 ลดลง 2% QoQ และ 9% QoQ ตามลำาดับ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในยุโรป อัตราค่าระวางเรือที่ลดลง และการอ่อนตัวของค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาโครงไก่ในประเทศเฉลี่ยในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 14.5 บาท/กก. ลดลง 38% YoY และ 26% QoQ แม็คคีย์รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2/66 ที่ 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% YoY ในขณะที่จีเอฟเอ็นรายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2/66 ที่ 31 ล้านบาท ลดลง 81% YoY เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนไก่ในประเทศที่ปรับตัวลดลง
แนวโน้ม
เราไม่คิดว่าจะมีช่วงไฮซีซั่นสําหรับวอลุ่มไก่ส่งออกในไตรมาส 3/66 เนื่องจากคําสั่งซื้อที่ลดลงจากทั้งลูกค้าญี่ปุ่นและยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้ยุโรป กําลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย บวกกับอัตราค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ลูกค้ายุโรปขอเจรจาต่อรองลดราคาส่งออกลงจากเดิม ในขณะที่ลูกค้าญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่ามากที่สุดถ้าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบหลายปี รวมถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลให้วอลุ่มส่งออกไก่ชะลอตัวลงในไตรมาส 3/66 เราคาดวอลุ่มไก่ส่งออกของ GFPT ที่ 7.5 พันตัน ลดลง 10% QoQ ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีช่วงไฮซีซั่นของการส่งออกในไตรมาส 3/66 ซึ่งปกติแล้ว วอลุ่มไก่ส่งออกในไตรมาสสามมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ และ ณ ปัจจุบันเราคาดกำไรหลักในไตรมาส 3/66 ที่ 340 ล้านบาท ลดลง 54% YoY แต่เพิ่มขึ้นเพียงแค่ 2% QoQ ประมาณการใหม่สำหรับกำไรหลักในไตรมาส 3/66 ในครั้งนี้ถือว่าต่ำกว่าที่เราเคยก่อนหน้าที่ 380 ล้านบาท เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 12.3% ในไตรมาส 3/66 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง 5-10% QoQ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
เราทำการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ลงอีก 6% (เหลือ 1.35 พันล้านบาท) และประมาณการกำไร หลักปี 2566 ลงอีก 7% (เหลือ 1.28 พันล้านบาท) ราคาเป้าหมายของเราปรับลดลงอีก 3% (เหลือ 15.5 บาท)
คําแนะนํา
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” สำหรับหุ้น GFPT โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาไก่ไทยที่มีแรงต้านทานในช่วงที่เป็นภาวะขาลงได้มากกว่าราคาหมูไทย ซึ่งปรับตัวลดลงแรงกว่าแนวโน้มของการส่งออกไก่ไทยที่ดูซบเซาลง ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ถือว่าเป็นเพียงแค่ปัจจัยลบระยะสั้น ซึ่งรอการฟื้นตัวที่จะกลับมาในปี 2567