KS Daily View 10.08.2023 >>> คาดดัชนีฟื้นตัวต่อบนความหวังพรรคเพื่อไทยนำจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จภายในสิ้นเดือนนี้ กอปรกับราคาพลังงานปรับขึ้นช่วงข้ามคืน ประเมินกรอบซื้อขาย 1,520/1,540  หุ้นแนะนำ PTTEP BANPU

สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้

  • ต่างประเทศ: ดัชนี ดัชนี DJIA -0.54%, S&P 500 -0.70%, NASDAQ -1.17%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Energy (+1.22%), Real Estate (+0.20%), Utilities (+0.17%) ขณะที่ Information technology (-1.51%), Communication services (-1.24%), Consumer discretionary (-1.20%)
  • ในประเทศ: SET Index +9.86 pts. หรือ +0.65% ปิดที่ 1,528.30 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ KBANK (+3.25%), GULF (+1.55%), BDMS (+1.79%), PTTEP (+1.24%) ขณะที่ DELTA (-4.42%), SCC (-0.31%), KEX (-7.56%), SCGP (-0.63%)
  • แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ: ดัชนีตลาดปรับตัวดีกว่าคาดวานนี้หลังทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1,515-1,520 จุด มอง sentiment ตลาดฟื้นต่อหลังการเมืองภายในประเทศกลับมามีความหวังพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จภายในเดือนนี้และราคาพลังงานปรับขึ้นช่วงข้ามคืน คาดกรอบซื้อขายวันนี้ที่ 1,520/1,540 จุด

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  • Theme หุ้นต่างจังหวัดมาหลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัว 6 พรรคร่วมรัฐบาลสร้างความหวังมีแนวโน้มรวมเสียงพอตั้งรัฐบาลซึ่งนโยบายของพรรคมักกระตุ้นกำลังซื้อในภาคการเกษตรและต่างจังหวัด กอปรกับราคารับซื้อข้าวเปลือกไทยพุ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี บนความกังวลอินเดียประกาศงดส่งออกข้าว ส่งผลให้ประเทศที่เคยเป็นคู่ค้าข้าวของอินเดียหันมาสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก หุ้นที่มีความเชื่อมโยงกำลังซื้อในต่างจังหวัดจึงมีการปรับตัวขึ้นแรงวานนี้ เช่น MTC, SAWAD, DOHOME, SPALI
  • หุ้นอีกกลุ่มที่มีประเด็นคือกลุ่มธนาคารโดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงเก็งกำไรบนการคาดการณ์ว่าหุ้นธนาคารใหญ่ในกลุ่มจะถูกปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในดัชนี SET50FF และ SET100FF  แบบใหม่ที่จะถูกคำนวนบนวิธีการ free float adjusted
  • ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีก็มีการวิ่งขึ้นตามค่าการกลั่น หรือ GRM ที่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 800% WoW แตะระดับกว่า US$9/bbl และ Olefin spread ที่ฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปรับขึ้นอีก 1.6% DoD เป็น US$87.55/bbl สูงสุดนับแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา จากภาวะอุปทานที่ตึงตัว ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติยุโรปพุ่งกว่า 40% DoD มายืนเหนือ EUR40 หลังมีข่าวการประท้วงหยุดงานของพนักงาน Chevron Corp. and Woodside Energy Group Ltd ในออสเตรเลียกระทบการส่งออก LNG ไปยุโรปที่กำลังสะสมก๊าซธรรมชาติก่อนเข้าสู่หน้าหนาว มองเป็น sentiment บวกต่อกลุ่มพลังงาน
  • จีนประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ปรับลดลง 0.3% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.4% YoY แต่ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่เงินเฟ้อทรงตัว 0.0% YoY สถานการณ์ระดับราคาสินค้าและบริการโดยรวมพลิกเป็นลดลงหรือเกิดภาวะเงินฝืดครั้งแรกนับตั้งแต่ ก.พ. 2564 หรือมากกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่จีนยังเผชิญกับสถานการณ์ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19
  • ผู้ว่าธปท. กล่าวที่งานสัมมนาวิชาการที่สำนักงานภาคเหนือ ระบุ GDP ไตรมาส 2/2566 อาจออกมาต่ำกว่าคาด แต่เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มดีและภาพรวมยังไม่ได้เปลี่ยน อย่างไรก็ดี GDP ทั้งปีอาจเหลือ 3% กลางๆ จากมองเดิม 3.6% ทั้งนี้เรื่องดอกเบี้ยนโยบายมองมาถึงจุดเปลี่ยนกล่าวคือมีโอกาสคงหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ยังไม่ปรับลงแน่นอนเพราะมองยังไม่เหมาะสม

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,520 – 1,545 จุด โดยปัจจัยในประเทศรอความชัดเจนของการโหวตเลือกนายกฯหลังศาลรธน.เลื่อนพิจารณากรณีโหวตซ้ำ “พิธา” เป็น 16 ส.ค.นี้ และผลประกอบการไตรมาส 2/66 ของบริษัท ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ คืนวันพฤหัสฯ

หุ้นแนะนำวันนี้

  • Top pick: PTTEP (ราคาพื้นฐาน 168 บาท) ผลประกอบการไตรมาส 2/2566 เพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ดีกว่าที่เราคาดและตลาดประเมิน ขณะที่มองไปไตรมาส 3/2566 คาดผลประกอบการยังแข็งแกร่งใกล้เคียงไตรมาส 2 อีกทั้งภาพทั้งปีดูมี upside ใน earnings forecast ของเรา กอปรกับปัจจัยระยะสั้นช่วยหนุนหลังราคาพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างข้ามคืนราว 1%
  • Top pick: BANPU (ราคาพื้นฐาน 10.0 บาท) ราคาก็าซปรับตัวขึ้นแรงช่วงข้ามคืน โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นต่อวันแรงที่สุดนับตั้งแต่มีสงคราม รัสเซีย-ยูเครน หลังมีคำขู่หยุดทำงานประท้วงของแรงงานใน LNG plant 2 แห่งที่ออสเตรเลีย เรามองเป็นบวกกับ BANPU เพราะราคาถ่านหินมักปรับตัวขึ้นตามก๊าซธรรมชาติจะเป็นโอกาสในการเก็งกำไรหุ้น BANPU ที่ราคาปัจจุบันยังไม่แพงซื้อขายบน PBV ปีนี้ที่ 0.7x

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสบดี ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) เดือนก.ค. ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.8% YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 3.0% YoY และเงินเฟ้อพื้นฐาน (core CPI) เดือนก.ค. ที่ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 4.7% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 4.8% YoY
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของจีน (New Yuan Loans) เดือน ก.ค. ตลาดคาดที่ 1,810 พันล้านหยวน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 3,050 พันล้านหยวน ต่อด้วยตัวเลข GDP ของอังกฤษสำหรับไตรมาส 2/2566 ตลาดคาดหดตัว -0.8% YoY เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 0.2% YoY และตัวเลขความเชื่อมั่นสหรัฐฯเบื้องต้นจาก University of Michigan ตลาดคาดปรับตัวลดลงเป็น 70.9 จาก 76.1 เดือนก่อนหน้า
- Advertisement -