บล.บัวหลวง:
Bumrungrad Hospital (BH TB/BH.BK)
BH – ไตรมาส 2/66 ทำสถิติใหม่ ซึ่งมากกว่าเราและตลาดคาด; คาดมีการปรับเพิ่มประมาณการตลาด
ผลประกอบการมากกว่าที่เราคาด 6% และมากกว่าตลาดคาด 26%
BH รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 1,748 ล้านบาท เติบโต 50% YoY และ 10% QoQ และทำสถิติใหม่ หากไม่รวมกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 4 ล้านบาท และยอดขายอสังหาฯ 48 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 1,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% และ 7% QoQ (ซึ่งทำสถิติ) กำไรหลักมากกว่าเราคาด 6% (และมากกว่าตลาดคาด 26%) เนื่องจากอัตรากําไรธุรกิจการแพทย์ที่มากกว่าคาด (ซึ่งทำสถิติ) และสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายต่ำกว่าคาด BH ประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับครึ่งแรกของปี 2566 ที่ 1.35 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่ 0.6% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 6 ก.ย.)
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
การเติบโตของกำไร YoY และ QoQ เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ที่ลดลง รายได้การแพทย์อยู่ที่ 6.0 พันล้านบาท (ผู้ป่วยไทย 35% และผู้ป่วยต่างประเทศ 65%) เติบโต 23% YoY และทรงตัว QoQ ซึ่งรายได้จากผู้ป่วยไทยอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท เติบโต 14% YoY และ 5% QoQ ขณะที่รายได้ผู้ป่วยต่างประเทศอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท เติบโต 29% YoY และทรงตัว QoQ การฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ ส่วนใหญ่มาจากอินโดจีนและฝั่งตะวันออกกลาง ซึ่งหนุนรายได้และกำไรสุทธิของ BH อย่างมาก อัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจการแพทย์ในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 49.6% เพิ่มขึ้นจาก 46.2% ในไตรมาส 2/65 และ 47.9% ในไตรมาส 1/66 ในไตรมาสนี้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 16.4% ลดลง 1.7% YoY และ 0.4% QoQ และ BH มีเงินสดในมือสุทธิ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. ที่ 8.9 พันล้านบาท
แนวโน้ม
กำไรหลักไตรมาส 3/66 จะเติบโต YoY (ธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง) และ QoQ เนื่องจากจํานวนผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล (ไตรมาสที่สองเป็นช่วงโลว์ซีซั่นสําหรับธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติ แม้ฤดูกาลในไตรมาสที่สามอาจจะเบาบางลงในปีนี้ เนื่องจากเดือนรอมฎอนเริ่มต้น ในสัปดาห์ที่สี่ของเดือนมี.ค. ไม่ใช่ในไตรมาส 2/66) โดยรายได้การแพทย์จะเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด YoY และ QoQ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจการแพทย์จะขยายตัว YoY และ QoQ ส่วนสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดจะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กําไรหลักครึ่งแรกของปี 2566 คิดเป็น 51% ของประมาณการกำาไรปี 2566 และ 59% ของประมาณการตลาด ประมาณกำไรทั้งปีของอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 32% YoY) นอกจากนี้ มีแนวโน้มการปรับเพิ่มประมาณการ กําไรของตลาดขึ้น 20-25% ในปี 2566 และ 15-20% ในปี 2567 เราคาดรายได้ธรุกิจการแพทย์จะเติบโต 22% YoY หนุนโดยธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง BH ไม่มีแผนการลงทุนใหญ่ๆ ในปีนี้ ดังนั้นบริษัทสามารถรักษาเงินสดในมือสุทธิได้ โดยเราคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2566 ที่ 55% ซึ่งคิดเป็น 4.50 บาทต่อหุ้น (เทียบเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 1.8%)
คำแนะนำ
เราเช่ือว่าผลประกอบการไตรมาส 2/66 ที่เซอร์ไพรส์ด้านบวกจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับประมาณตลาดและราคาหุ้น นอกจากนี้ BH เป็นหุ้นที่ดีสุดในธีมการฟื้นตัวการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติ สามารถฟื้นตัวได้เทียบเท่าก่อนช่วงโควิดในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในธุรกิจการแพทย์แบบดิจิทัลและเทคโนโลยีด้านการแพทย์ที่อาจสร้างอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรในปัจจุบันของเราในอนาคต เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” BH โดยมีราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 ที่อิงจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ที่ 280 บาท อิงจาก WACC ที่ 7.1% และ Terminal Growth ที่ 2%