บล.บัวหลวง:
Major Cineplex Group (MAJOR TB/MAJOR.BK)
MAJOR – ตรงกับที่เราคาด
กำไรสุทธิตรงกับที่เราคาด
MAJOR รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 306% YoY และ 664% QoQ ซึ่งตรงกับที่เราคาดที่ 556 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษ (กำไรจากการขาย MPIC 346 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายพิเศษ 11 ล้านบาท) กำไรหลักจะอยู่ที่ 198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% YoY และ 175% QoQ ซึ่งสูงกว่าเราคาด 27% (แต่ต่ำกว่าตลาดคาด 13%) เนี่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่ำกว่าคาด บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับครึ่งแรกของปี 2566 ที่ 0.5 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่ 3% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 23 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 5 ก.ย.)
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
รายได้ไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท เติบโต 39% YoY และ 44% QoQ โดยทุกธุรกิจของ MAJOR รายงานการเติบโต YoY ได้แก่ ยอดขายตั๋วหนัง (เพิ่มขึ้น 28% YoY และ 54% QoQ) อาหารและเครื่องดื่ม (เพิ่มขึ้น 52% YoY และ 51% QoQ) ธุรกิจโบว์ลิ่งและคาราโอเกะ (เพิ่มขึ้น 40% YoY และ 6% QoQ) โฆษณา (เพิ่มขึ้น 74% YoY และ 28% QoQ) พื้นที่ให้เช่า (เพิ่มขึ้น 34% YoY และ 3% QoQ) และคอนเทนต์หนัง (เพิ่มขึ้น 38% YoY และ 3% QoQ) อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายหนังไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 10.1% เพิ่มขึ้นจาก 8.6% ในไตรมาส 2/65 และ 1.5% ในไตรมาส 1/66 ทั้งนี้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ของ MAJOR อยู่ที่ 22.8% ลดลงจาก 27.8% ในไตรมาส 2/65 และ 25% ในไตรมาส 1/66
แนวโน้ม
สำหรับธุรกิจหนัง มีหนังฟอร์มยักษ์ที่จ่อคิวเข้ามาในช่วงไตรมาส 3/66 ได้แก่ Mission Impossible, Oppenheimer, The Meg 2 และ Gran Turismo อย่างไรก็ตาม รายได้รวมทั้งหมดในไตรมาส 3/66 มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลง QoQ เนื่องจากหนังฟอร์มยักษ์น้อยลงในไตรมาส 3/66 เทียบกับไตรมาส 2/66 (Fast X, Guardians of the Galaxy และ Transformer) ทั้งนี้ เราคาดว่ากําไรหลักในไตรมาส 3/66 จะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กำไรหลักครึ่งแรกของปี 2556 คิดเป็นเพียง 33% ของประมาณการกำไรหลักของเราที่ 814 ล้านบาท ดังนั้นเราจึงปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2566 ลง 14% มาอยู่ที่ 704 ล้านบาท
คําแนะนํา
หลังจากการยกเลิกล็อคดาวน์ รายได้ของ MAJOR มีโมเมนตัมการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง ในด้านความสามารถในการทำกำไร เรามีมุมมองเชิงบวก เนื่องจาก MAJOR สามารถฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิดได้แล้ว กำไรของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยมียอดขายรวมประมาณ 2-2.5 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม เรายังคงกังวลต่อพฤติกรรมการหนังของคนไทยที่เปลี่ยนไป หลังจากช่วงโควิด โดยยอดการไปดูหนังใหญ่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดแล้ว แต่ผู้คนไปโรงภาพยนตร์เพื่อดูหนังประเภทอื่นน้อยลงเหมือนที่เคยเป็นในปี 2562 กำไรหลักในไตรมาส 3/66 จะลดลง QoQ ดังนั้น เราแนะนำให้รอการฟื้นตัวที่ชัดก่อน
