บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Gulf Energy Development (GULF.BK/GULF TB)*
ผลประกอบการ 2Q66: เป็นไปตามคาด!
Event
ผลประกอบการ 2Q66 และแนวโน้ม
Impact
ผลประกอบการ 2Q66 – เป็นไปตามคาด แต่ต่ำกว่าตลาดคาด 20%
กำไรสุทธิ GULF ใน 2Q66 อยู่ที่ 2.89 พันล้านบาท (-25% QoQ, +89% YoY) โดยถูกฉุดจากผลขาดทุนจาก FX ก้อนใหญ่ ทั้งนี้ กำไรหลักใน 2Q66 อยู่ที่ 3.56 พันล้านบาท (-3% QoQ, +15% YoY) ทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 1H66 อยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท (+14% YoY) คิดเป็น 45% ของกำไรปี 2566F ของเรา เนื่องจาก SPPs แข็งแกร่งขึ้น และการ COD โครงการ IPPs (GSRC unit4 และ GPD unit1)
กำไรที่ลดลง QoQ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้
กำไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะ margin ของ IPP ลดลง (การกลับมาใช้ก๊าซธรรมชาติทำให้ margin กลับมา ปกติ) ผลการดำเนินงานของโครงการพลังงานหมุนเวียนอ่อนแอตามฤดูกาล (ความเร็วลมต่ำ), ต้นทุนดอกเบี้ยสูงขึ้น, ผลการดำเนินงาน Jackson แย่ลง (ราคาก๊าซลดลง) และมีการปิด SPPs บางแห่งตามกำหนด แม้จะมีปัจจัยบวกอย่างเช่น margin ของ SPP ที่แข็งแกร่งขึ้น, รับรู้ผลการดำเนินงานของ GPD เฟส 1 เต็มไตรมาส, ปริมาณไฟฟ้าจากโครงการ replacement เพิ่มขึ้น, ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจาก INTUCH* (รายได้และต้นทุนเพิ่มขึ้น) และ PTTNGD (ราคาก๊าซลดลง) ทั้งนี้ ราคาก๊าซเฉลี่ยของ SPP ลงเหลือ 406 บาท/mmbtu (90 บาท) ในขณะที่ค่า Ft เฉลี่ยลดลงเหลือ 1.12 บาท/kWh (-0.42 บาท) ส่วนปริมาณขายไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมของ GULF ค่อนข้างซึมเพราะวันหยุดเยอะ ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับ 2Q65 กำไรที่เพิ่ม YoY มาจากการฟื้นตัวของ margin ของ SPPs, การรับรู้เต็มปีจาก GSRC, การเริ่มรับรู้ GPD เฟส 1 (464MWe) และส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น
แนวโน้มเป็นอย่างไร…? เรายังคงประมาณการกำไรปี 2566F-2568F เอาไว้เท่าเดิม ซึ่งเติบโต 39%YoY / 22%YoY / 16%YoY เราคาดว่าผลประกอบการของ GULF ในงวด 2H66 มีแนวโน้มสดใส HoH โดยจะได้รับแรงหนุนจาก margin ที่แข็งแกร่งขึ้นของ SPP, การรับรู้ผลการดำเนินงานของ GDP อย่างเต็มที่ และ high season ของโครงการพลังงานลม ถึงแม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับราคา Dutch TTF LNG ที่พุ่งสูงขึ้นมาในช่วงนี้ แต่เราคาดว่า GULF จะได้รับผลกระทบต่ำ เมื่อเทียบกับคู่แข่งเพราะ 75% ของ operating capacity มาจาก IPPs
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ GULF ด้วยราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 60.00 บาท เราเชื่อว่าความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับ สถานการณ์การเมืองในประเทศ, ราคาก๊าซที่ลดลง และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ นอกจากนี้ GULF ยังมีโครงการที่ชัดเจนรออยู่ใน pipeline และเราคาดว่าจะบริษัทจะได้โครงการใหม่ๆ อีกเนื่องจากมี connection เหนือกว่าคู่แข่ง
Risks
ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, เกิดปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย