ติดตามโค้งสุดท้ายของผลประกอบการ

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.07% ขณะที่ Nasdaq ปิดบวก 1% ได้แรงหนุนจากหุ้น NVIDIA ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.69% ถูกกดดันจากการแข็งค่าของ US Dollar รวมถึงความกังวลเศรษฐกิจจีน

Market Outlook

วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) +0.8%YoY, 0.3%MoM สูง กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์เล็กน้อย ด้านดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน +2.4%YoY 0.3%MoM สูงกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์เล็กน้อย ภายหลังจากทราบข้อมูลพบว่า US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 ปีปรับตัวขึ้น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า อย่างไรก็ตาม ความเห็นดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง CME FED Watch ยังให้น้ำหนักสูงราว 90% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมเดือน ก.ย. สะท้อนว่าแม้ดัชนีราคาผู้ผลิตจะสูงกว่า Bloomberg ประเมิน แต่ไม่เปลี่ยนมุมมองต่อดอกเบี้ย

สำหรับสัปดาห์นี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ (1) ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯกำหนดรายงานวันอังคาร Bloomberg ประเมินไว้ 0.4%MoM หากแย่กว่าคาดการณ์จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นมากกว่า (2) ใบขออนุญาต ก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.47 ล้านใบอนุญาตและ 1.45 ล้านหลังคาเรือน (3) FED Minute หรือรายงาน ประชุมของ FED ในเดือน ก.ค.

สำหรับปัจจัยในประเทศรอติดตามศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องจากผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ในวันที่ 16 ส.ค. หากมีมติรับคำร้องไว้แต่ ไม่ขอให้เลื่อนการโหวดนายกรัฐมนตรี ก็เชื่อว่าในไม่ช้าจากนี้จะเห็นประธานสภา ออกมาระบุว่าวันเลือกนายกรัฐมนตรี ข้อมูลล่าสุดจากพรรคเพื่อไทยระบุว่าสามารถรวบรวมเสียงได้แล้ว 315 เสียง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพรรคพลังประชารัฐเข้ามาร่วมด้วย การรวบรวมเสียงได้ 315 เสียงถือว่าเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ซึ่งเป็นผลบวกต่อนโยบาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่พอต่อการโหวดนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ รอติดตามโค้งสุดท้ายของผลประกอบการ 2Q23 ข้อมูลล่าสุดพบว่ากำไรสุทธิของหุ้น 80 หุ้นใน SET100 รวมกันอยู่ที่ 1.55 แสนล้านบาท (-38%YoY -18%QoQ) แต่หากไม่รวม Commodity Sector กำไรสุทธิรวมกันจะอยู่ที่ 1.12 แสนล้านบาท (-1%QoQ +7%YoY) การขยายตัว YoY ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคารฯและค้าปลีก รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว

สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหว 1520 – 1550 เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้น Trading เลือกกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ร้านอาหาร (M) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) อิเล็กทรอนิกส์ (KCE) ส่งออก (TU)

หุ้นแนะนําซื้อวันนี้

BGRIM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท) คาดว่ากำไรจะโต YoY และ QoQ หนุนจากอัตรากำไรที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะคาดว่าราคาจำหน่ายไฟฟ้าจะลดลงในอัตราที่น้อยกว่าการปรับตัวลดลงของต้นทุนก๊าซ ขณะที่ภาพรวมในปี 2024 จะยิ่งสดใสขึ้น หนุนจากการเริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าใหม่ในไตรมาส 4/23 ส่วนปัจจัยรบกวนทางการเมืองดูท่าจะเพลาลงบ้าง จากที่เคยมีความกังวลเรื่องการปฏิรูปนโยบายพลังงานและการกำหนดเพดานราคาจำหน่ายไฟฟ้า

MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท) คาดว่าการฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจท่องเที่ยวและค่าตั๋วโดยสารไปยุโรปที่กลับสู่ระดับปกติจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อผลประกอบการธุรกิจโรงแรมในยุโรป ซึ่งมองว่าจะช่วยกระตุ้นยอดจองห้องพักและรักษา ADR ในฐานสูงที่ราว €150/คืน ได้ในช่วงเดือน ต.ค. – พ.ย. 2023 ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวได้ ปัจจุบันเรายังไม่เห็นสัญญาณที่ชี้ถึงภาวะอุปสงค์การเข้าพักที่ชะลอตัวจากราคาค่าห้องที่สูงขึ้นในภาคการท่องเที่ยวเชิงพักผ่อนแต่อย่างใด ซึ่งจะเอื้อให้ MINT ส่งต่อภาระต้นทุนสาธารณูปโภคและอาหารที่ไม่น่าจะลดลงในระยะสั้นนี้ไปสู่ ลูกค้าได้

- Advertisement -