บล.พาย:
PTG: PTG Energy PCL อัตรากําไรเผชิญแรงกดดันในไตรมาส 2/23
กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 ลดลงเหลือ 111.0 ล้านบาท (-82% YoY, -60% QoQ) อุดจากค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่อ่อนตัวลง ผลประกอบการ ดังกล่าวต่ำกว่าที่เราคาดเล็กน้อย แม้ปริมาณขายน้ำมันจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนแตะยอดสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ค่าการตลาดค้าปลีก น้ำมันลดลงเหลือ 1.59 บาท/ลิตรในไตรมาส 2/23 จาก 2.1 บาท/ลิตร ในไตรมาส 2/22 และ 1.7 บาท/ลิตรในไตรมาส 1/23 เพราะต้นทุนที่ สูงขึ้นจากส่วนต่างระหว่างการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันของรัฐบาล และการเปลี่ยนแปลงของราคาหน้าโรงกลั่น สําหรับผลงานในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (non-oil) ยังแข็งแกร่งจากปริมาณขายLPG และกาแฟพันธุ์ไทยที่เติบโตขึ้น เรามองว่ากำไรจะลดลงแค่ชั่วคราวและจะฟื้นตัว งภายในครึ่งหลังปี 2023 ตามค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น เราจึงคงคําแนะนํา “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 12.60 บาท
กําไรสุทธิไตรมาส 2/23 สอดคล้องกับที่ตลาดคาด
- กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 ลดลงเหลือ 111.0 ล้านบาท (-82 % YoY, -60% QoQ) อุดจากค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่อ่อนตัวลง ถือว่าต่ำกว่าที่เราคาดเล็กน้อย
- รายได้โต 10% YoY เป็น 5.08 หมื่นล้านบาท (ทรงตัว QoQ) จากส่วนแบ่งธุรกิจน้ำมัน (+8% YoY, ทรงตัว QoQ) และ non-oil (+54% YoY, +6% QoQ) ที่ปรับดีขึ้น ทั้งนี้ รายได้ธุรกิจน้ำมันคิด เป็น 94% ของรายได้รวม
- ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันลดลงเหลือ 1.59 บาท/ลิตร ในไตรมาส 2/23 จาก 2.1 บาท/ลิตร ในไตรมาส 2/22 และ 1.7 บาท/ลิตร ในไตรมาส 1/23 เพราะต้นทุนที่สูงขึ้นจากส่วนต่างระหว่างการบริหาร จัดการกองทุนน้ำมันของรัฐบาลและการเปลี่ยนแปลงของราคาหน้าโรงกลั่น
- แต่ปริมาณขายน้ำมันในทุกช่องทางปรับเพิ่มขึ้น 12% YoY และ 4% QoQ เป็น 1.5 พันล้านลิตร แตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ หนุนจากเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง บริษัทยังมีส่วนแบ่งในตลาดปั๊มน้ำมันอันดับ 2 ที่ 19.5% (เพิ่มจาก 19.2% ในไตรมาส 1/23)
- สําหรับธุรกิจ non-oil พบว่ากําไรขั้นต้น (21% ของค่าไรขั้นต้นรวม) โต 18% YoY และ2% QoQ เป็น 649 ล้านบาท หนุนจาก 1) ยอดขายธุรกิจ LPG ที่โตขึ้น (28% YoY ด้วยปริมาณขายที่โต 2%) สอดคล้องกับธุรกิจน้ำมัน และ 2) ยอดขายธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่สูงขึ้นหลังจากขยายจุดขายมากขึ้น
คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมครึ่งปีหลัง
เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมครึ่งปีหลัง เพราะคาดว่าค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะฟื้นตัว หลังจากราคาหน้าโรงกลั่น และการนำเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันกลับเป็นปกติ IVL คาดค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะขึ้นสู่ระดับปกติที่ 1.8 บาท/ลิตร ได้ภายในครึ่งหลังปี 2023 แต่ยังมีปัจจัยรบกวนจากราคาน้ำมันดิบที่ขึ้นต่อเนื่อง ส่วนปริมาณขายก็มีโมเมนตั้มดีขึ้นในไตรมาส 1/23 (+5% QoQ) และไตรมาส 2/23 (+4% QoQ) ส่วนการขยายปั๊มน้ำมัน 5% และ LPG 15% ในปีนี้จะช่วยหนุนการเติบโตของปริมาณขายในครึ่งหลังปี 2023 ได้อีกแรง
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 12.60 บาท
คงคําแนะนํา“ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 12.60 บาท อิง 20xPE’23E คิดลด 10% ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี แม้กำไรไตรมาส 2/23 ที่อ่อนแอจะกดดันราคาหุ้นระยะสั้น แต่มองว่าเป็นปัจจัยชั่วคราว และคาดถึงการพลิกฟื้นในครึ่งปีหลัง ตามค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ปรับดีขึ้น
Revenue breakdown
- บริษัทประกอบธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน PT ซึ่งแบ่งสถานีบริการน้ำมันได้เป็นสองประเภท คือ 1) บริษัทลงทุนเอง(COCO) และ 2) สถานีบริการน้ำมันที่เป็นของตัวแทนจำหน่าย (DODO)
- ธุรกิจน้ำมันคิดเป็น 82% ของกำไรขั้นต้นของบริษัท มีการค้าส่งและค้าปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการทั้งแบบ COCO และ DODO
- บริษัทยังดำเนินธุรกิจค้าปลีกก๊าซ LPG สำหรับรถยนต์ ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของเองทั้งหมด โดยส่วนนี้คิดเป็น 15% ของกำไรขั้นต้น
- ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มและธุรกิจอื่นๆ คิดเป็น 3% ของกำไรขั้นต้น ธุรกิจกลุ่มนี้รวมถึงร้านสะดวกซื้อ Max Mart ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ที่เก็บน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น พื้นที่ให้เช่า รวมถึงรายได้จากรายการพิเศษเช่นเงินอุดหนุนสำหรับการลดลงของราคาน้ำมัน