บล.ฟิลลิป:
AAV: 2Q66 ขาดทุนมากกว่าคาด
ซื้อ TP’66: 3.50
ยังมีมุมมองบวกใน 2H66 ที่ดีขึ้นตามฤดูกาลท่องเที่ยวที่สูงกว่า 1H66 และเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศมากขึ้น ทำให้ค่าตั๋วคาดจะยังสูงต่อเนื่อง แม้ 1H66 จะยังขาดทุนสุทธิ แต่ส่วนหนึ่งมาจากขาดทุน Fx ที่ 828 ลบ. จากหนี้ เช่าเครื่องบิน หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นก็จะมีการบันทึกเป็นกำไร Fx กลับคืนมา จึงยังมองทั้งปีกลับมามีกำไรได้
งบรวม | 2Q66 | 1Q66 | 2Q65 | % y-y | % q-q | 6M66E | 6M65 | % y-y |
กําไร | -1,013 | 359 | -4,724 | 78.6 | -135.5 | -653 | -7,049 | 90.8 |
EPS | -0.08 | 0.03 | -0.41 | 79.5 | -135.5 | -0.05 | -0.62 | 91.4 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- 2Q66 ขาดทุน 1,013 ลบ. ดีขึ้น 78.6% แต่มากกว่าที่คาดไว้: ธุรกิจยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง y-y ตามภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น โดยผู้โดยสาร 2Q66 อยู่ที่ 4.64 ล้านคน +176% y-y รายได้เฉลี่ย/ตั๋ว ที่ 1,755 บาท +33.3% y-y จากความต้องการเดินทางและบินเส้นทางระหว่างประเทศมากขึ้น รายได้เสริม/คนที่ 409 บาท/คน และ load factor อยู่ที่ 89% จึงมีรายได้ที่ 10,036 ลบ. ต้นทุน/หน่วยอยู่ที่ 1.71 บาท จากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าซ่อมบำรุง และ SG&A +73.7% ตามการดำเนินงานที่ฟื้นตัว โดยมีกำไรปกติที่ 69 ลบ. แต่มีขาดทุน Fx ที่ 1,391 ลบ. ดีขึ้น 40% y-y โดยขาดทุนที่มากกว่าคาด มาจากรายได้ต่ำคาด 1.6% และต้นทุนมากกว่าคาด 3.9%
- ยังมีมุมมองบวก 2H66 จะดีกว่า 1H66: 2H66 คาดดีกว่า 1H66 ตามฤดูกาลท่องเที่ยวและเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเส้นทางจีนที่สิ้น 2Q66 บินอยู่ที่ 108 เที่ยว/สัปดาห์ ส่งผลดีต่อจำนวนผู้โดยสารและรายได้เฉลี่ย/ตั๋ว ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนการเก็บภาษีสรรพสามิตเป็นอัตราเดิมที่ 4.726 บาท/ลิตร จะมีการปรับราคาตั๋วขึ้นชดเชยภาษีที่สูงขึ้น ไม่น่าจะกระทบต่อบริษัท