บล.ฟิลลิป:

BTG: 2Q66 ขาดทุนสุทธิ

ทยอยซื้อ TP’67: 25.25

2Q66 ขาดทุนสุทธิ -351 ลบ. -118.8%y-y -189.3%q-q จากราคาสุกรในประเทศปรับตัวลดลงผลกระทบจากการลักลอบชิ้นส่วนสุกรผิดกฎหมาย ทำให้มีปริมาณสุกรในระบบเยอะ หากมองข้ามปัจจัยลบ ซึ่งจะมีผลกระทบแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ราคาสุกรควรกลับสู่สภาวะปกติหลังจากนี้ ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 25.25 บาท/หุ้น ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ทยอยซื้อ”

งบรวม

2Q66

1Q66

2Q65

% y-y

% q-q

6M66

6M65

% y-y

กําไร

-351

400

1,869

-118.8

-189.3

42

3,839

-98.9

EPS

-0.18

0.20

1.25

-114.5

-189.3

0.61

2.56

-99.3

หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท

  • 2Q66 ขาดทุน: รายได้ 26,491 ลบ. -5.3%y-y -4.5%q-q ผลกระทบจากราคาสุกรในประเทศปรับลดลง  จากการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนสุกรผิดกฎหมาย, GPM 10.5% ลดลง y-y และ q-q จากราคาสุกรปรับตัวลง, SG&A ต่อรายได้ 11.6% เพิ่มขึ้น y-y และ q-q เป็นผลให้มีขาดทุนจากการดำเนินงาน -292 ลบ. -111.8%y-y -151.9%q-q มีขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์และสินทรัพย์ชีวภาพ 99.8 ลบ. ทำให้มีขาดทุนสุทธิ -351 ลบ. -118.8%y-y -189.3%q-q
  • 1H66 รายได้ยังเติบโต: 1H66 มีรายได้ 54,621.5 ลบ. +0.6%y-y จาก 1. การเติบโตของการเพิ่มราคาขายสินค้า ตามต้นทุนวัตถุดิบของอาหารสัตว์ และปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากโรงงานใหม่ ที่เปิดในช่วง 2Q65 2. ธุรกิจต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากด้านปริมาณขายอาหารแปรรูปและเนื้อสัตว์แปรรูป 3. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง เพิ่มขึ้นจากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น และมีกำไร 42.2 ลบ. -99.0%y-y
  • มองข้ามปัจจัยลบ: มองระยะสั้นแนะนำชะลอการลงทุน เนื่องจากราคาสุกรในประเทศยังปรับตัวลงต่อจนถึงปัจจุบัน  แต่หากมองข้ามวิกฤติซัพพลายที่มากจากสุกรผิดกฎหมาย และดีมานด์ที่ต่ำกว่าที่คาด ระยะถัดไปคาดสถานการณ์สุกรในประเทศควรปรับตัวดีขึ้นจากรัฐบาลที่เข้ามาตรวจสอบ และ BTG ยังขยายการผลิตอย่างต่อเนื่อง ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 25.25 บาท/หุ้น ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ทยอยซื้อ”
- Advertisement -