บล.บัวหลวง:
Bangkok Dusit Medical Services (BDMS TB/BDMS.BK)
BDMS – มากกว่าที่เราคาด แต่เป็นไปตามตลาดคาด
กำโรมากกว่าที่เราคาด แต่เป็นไปตามตลาดคาด
BDMS รายงานกำไรหลักไตรมาส 2/66 ที่ 3.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY แต่ลดลง 13% QoQ จากสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 1/66 กําไรหลักมากกว่าเราคาด 72 ( องจากรายได้จากธุรกิจการแพทย์และ อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าที่เราคาด แต่เป็นไปตามตลาดคาด
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
กำไรหลักเติบโต YoY เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานของโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น 10% YoY ซึ่งได้แรงหนุนจากการเติบโตของ Center of Excellence (COE) และการเติบโตของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น 22% YoY และ รายได้ผู้ป่วยไทย เพิ่มขึ้น 7% YOY กำไรหลักที่ลดลง QoQ เนื่องจากช่วงโลว์ซีซั่น รายได้ธุรกิจการแพทย์อยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท (เป็นผู้ป่วยชาวไทย 74% ผู้ป่วยต่างชาติ 26%) เพิ่มขึ้น 10% YoY และทรงตัว QoQ รายได้จากผู้ป่วยชาวไทยอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YoY และ 3% QoQ รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติอยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% YoY แต่ลดลง 7% QoQ ปริมาณผู้ป่วยต่างชาติ โดยหลักมาจากประเทศจีน ฝั่งตะวันออกกลาง และ CLMV (ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) รายได้อยู่ที่ 941 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 2% QoQ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ A.N.B. Laboratories Co.,Ltd (“ANB”) และ Medicpharma Co., Ltd. (“MP”)
อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 35.9% เพิ่มขึ้น 0.9% YoY แต่ลดลง 1.1% QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 20.2% เพิ่มขึ้น 1.0%YOY และ 1.0% QoQ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิของ BDMS อยู่ที่ 0.03 เท่า ณ สิ้นเดือน มิ.ย.
แนวโน้ม
กำไรหลักไตรมาส 3/66 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YOY และ QoQ หนุนโดยการฟื้นตัวต่อเนื่องของผู้ป่วยในไทยและผู้ป่วยต่างชาติ เราคาดรายได้ธุรกิจการแพทย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะขยายตัว YoY แต่ลดลง QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดจะลดลง YoY และ QoQ (รายได้ที่เพิ่มขึ้น)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กําไรหลักครึ่งแรกของปี 2566 คิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรปี 2566 (คิดเป็น 48% ของประมาณการตลาด) เราคาด BDMS จะรายงานกำไรหลักทำสถิติสูงสุดอีกครั้งในปี 2566 ที่ 1.3 หมื่นล้านมาก (สูงกว่าระดับก่อนช่วงโควิดปี 2562 อยู่ 29%) ปัจจัยหนุนจะมาจากการเติบโตของรายได้ธุรกิจการแพทย์ 4% และการรักษาอัตรากำไรหลักในระดับสูงที่ 13.7% เราคาดว่าธุรกิจผู้ป่วยต่างชาติจะฟื้นต่อเนื่องในปีนี้ โดยเฉพาะผู้ป่วยชาวจีน และการผ่อนคลายข้อจํากัดการเดินทางและข้อกําหนดในการกักตัว
คําแนะนํา
ผลประกอบการไตรมาส 2/66 ที่ดีกว่าคาด และแนวโน้มปี 2566 ที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะกลาง-ยาว แนะนำให้นักลงทุนชื้อสะสม BDMS เนื่องจากคาดการณ์การฟื้นตัวของอุปสงค์ผู้ป่วยชาวจีนในปีนี้ (ซึ่งจะ เป็นตัวขับเคลื่อนกำไรหลัก) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ณ สิ้นปี 2566 ที่ 32 บาท (จากสมมติฐาน WACC ที่ 6.9% และ Terminal Growth ที่ 2%)