น้องใหม่ไฟแรง I2 ลุยส่งมอบงานเพียบ หนุนกำไรครึ่งแรกปี 66 ทะลัก 2 เท่าตัว! พร้อมโชว์ Backlog นิวไฮกว่า 2.5 พันลบ.
บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ประกาศผลงาน 6 เดือนแรกปี 66 ฟาดกำไร 24.43 ล้านบาท โตกระฉูด 277% จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ หลังส่งมอบงานภาครัฐขนาดใหญ่หลายโครงการ ตุน Backlog นิวไฮกว่า 2.5 พันล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้ต่อเนื่อง ด้าน “อธิพร ลิ่มเจริญ” ระบุแนวโน้มครึ่งปีหลังโตต่อ ลุยเดินหน้าประมูลงานใหม่ คาดคว้างานเพิ่มอีก 400 ล้านบาท
นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 7.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 778.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 24.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.47 ล้านบาท
โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 461.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.10 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 4.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากบริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) จำนวน 335.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากทยอยส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ อาทิเช่น โครงการซื้อพร้อมติดตั้งระบบ IP Core, โครงการระบบบริการสารสนเทศ และงานโครงการอื่นๆ
“ในช่วงไตรมาส 2/2566 และครึ่งปีแรกของปี 2566 บริษัทฯ ส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ตามแผนที่วางไว้ และทยอยรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบจากปีก่อน” นายอธิพร กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์การใช้เงินระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยตั้งเป้าหมายปีนี้ได้รับงานเพิ่มอีกกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้างโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่ารวม 1,541.28 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็นกว่า 2.5 พันล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด