บล. หยวนต้า (ประเทศไทย)

ดีกว่าคาด แข็งแกร่งกว่ากลุ่ม แต่ถูกกว่ากลุ่ม งงเด้

  • กำไรปกติ 1Q66ที่ 509ลบ. (+67.7%QoQ, +3%YoY)ดีกว่าคาด 31% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาดมากสูงถึง 12.9% จาก 9.7% ใน 1Q66และ 11.7% ใน 2Q65คาดไว้เพียง 11.0% เนื่องจากได้สต๊อกต้นทุนต่ำในช่วงที่ราคายางปรับตัวลงในช่วง4Q65และสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศซึ่งมี GPM สูงกว่าเพิ่มขึ้นเป็น 39%จาก37% ใน 1Q66ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 50.65 กก. เพิ่มขึ้น 3.3% QoQ แต่ลดลง 15.1% YoY ใกล้เคียงกับที่คาดที่ 50.50บาท/กก. นอกจากนี้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง 6.6% QoQ จากที่คาดว่าจะทรงตัว กำไรสุทธิอยู่ที่ 457ลบ. มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 41 ลบ. และขาดทุนจากอนุพันธ์ 11ลบ. คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.10 บาท
  • ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.05 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 25 ส.ค. ให้ผลตอบแทน 1.1%

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)

กําไร 2Q23 สูงกว่าคาดแต่แนวโน้มกําไรระยะสั้นยังไม่เด่น

NER รายงานกําไรปกติที่ 509 ล้านบาทเติบโต 14.3% yoy และ 67.7% qoq โดยหนุนจากยอดขายรวมและ gross margin ที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากยอดขายต่างประเทศที่มากขึ้นและอํานาจต่อรองของบริษัทที่สูงขึ้นตามราคาขายยางช่วงปลายปี 2022 ทั้งนี้ประเมินกําไรระยะสั้น3Q23อาจยังไม่เด่นจากราคาขายยางโลกที่ยังทรงตัวในระดับตํ่ากดดันความสามารถต่อรองของบริษัทอย่างไรก็ตามจากupside

คงคําแนะนํา”ซื้อ” ภายใต้ประมาณการปัจจุบันปี2023และอิง Forward PE ปี2023ที่ 8 เท่าได้ราคาเป้าหมายที่6บาทยังมี Upside ลงทุนราว 29% พร้อมเงินปันผลระดับราว 6-7% ต่อปีภาพรวมประเมินราคาปัจจุบันยังเป็นจุดซื้อสะสมที่ดี

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)

NER: 2Q66 GPM สูงกว่าคาด

2Q66 กำไร 457 ลบ. +19.6%y-y +45.4%q-q  รายได้จากการขายยางเพิ่มขึ้นy-y และ q-q, แม้ราคาขายยางในตลาดโลกไม่ได้ฟื้นตัวเหมือนปีก่อนแต่ทำ GPM ได้ที่ 12.9% เพิ่มขึ้น y-y และ q-q ซึ่งสูงกว่าคาดทางฝ่ายมีการปรับกําไรปี66 เพิ่มเป็น1,782 ลบ. +1.9%y-y ปรับคําแนะนําขึ้นเป็น”ซื้อ”

- Advertisement -