ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับลง สร้างแรงกดดันในวันนี้
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.52% หลังจากรายงานผลประชุม FED มีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับภาวะดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับลง 1.7% กังวลอุปสงค์ หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานใบขออนุญาตก่อสร้างที่ 1.442 ล้านใบอนุญาตต่ำกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.463 ล้านใบอนุญาต และยอดสร้างบ้านใหม่ที่ 1.452 ล้านหลังคาเรือน ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.45 ล้านหลังคาเรือน อย่างไรก็ตาม ยอดสร้างบ้านใหม่ขยายตัว 3.9%MoM สูงกว่า Bloomberg Consensus คาดที่ 1.1%MoM นอกจากนี้ยังรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 1%MoM สูงกว่า Bloomberg คาดไว้ที่ 0.3%MoM หลังจากทราบข้อมูลดังกล่าวพบว่า US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 ปีปรับขึ้น และ Dollar Index ปรับขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม CME FED Watch ยังให้น้ำหนักระดับสูงราว 87.5% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมเดือนกันยายน ทั้งนี้ยังคงระมัดระวังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วยความเสี่ยงดอกเบี้ยอยู่ระดับสูงจะกดดันการเติบโตและ US Bond Yield ที่อยู่ระดับสูงจะลดทอนความน่าสนใจของตลาดหุ้น
สำหรับปัจจัยในประเทศวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย ปมเสนอชื่อคุณพิธาโหวดนายกรัฐมนตรีรอบ 2 มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น เนื่องจากจะทำให้เส้นทางการโหวดนายกรัฐมนตรีเดินหน้าต่อ ล่าสุดมีรายงาน ฝออกมาว่าจากประธานสภาว่ากำหนดให้การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นวันที่ 22 ส.ค. อย่างไรก็ตามการตอบสนองของ SET INDEX วานนี้พบว่าปิดตลาดไป (-0.08%) แม้จะฟื้นจากจุดต่ำสุดขึ้นมา 0.9% จากจุดต่ำสุดแต่เป็นการฟื้นตัวที่ยังไม่แข็งแรง สะท้อนว่าปัจจัยการเมืองเริ่มมีผลจำกัดต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังเห็นการขายสุทธิ 883 ล้านบาท ประกอบกับ Short TFEX อีก 1.9 หมื่น สัญญารวม 2 วัน Short ไปแล้ว 5.5 หมื่นสัญญา สะท้อนว่านักลงทุนรายใหญ่มิได้มี มุมมองเชิงบวกมากนักต่อปัจจัยการเมือง
วันนี้ประเมิน SET INDEX ปรับตัวลง กรอบ 1510 – 1520 รับแรงกดดันจากตลาดหุ้น Nikkei ที่เช้านี้ปรับลง 0.8% และราคาน้ำมันดิบที่ปรับฐานจะกดดันกลุ่มน้ำมัน เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุนแม้ดัชนีจะเริ่มปรับฐานลงมา เนื่องจากช่วงถัดไปเผชิญหลายความเสี่ยง ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นเลือกกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) เวชภัณฑ์ (MEGA) อิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) อาหาร (TU)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท) ด้วยกำไรปกติที่ 4.5 พันล้านบาท (+47%YoY, +19%QoQ) ดีกว่าที่เราและ Bloomberg consensus คาด 15% หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่บวก 7.9% และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ แข็งแกร่งในธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ปรับเพิ่ม 100 bps YoY ช่วยชดเชยผลตอบแทนพนักงาน ค่าไฟฟ้า และ ต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นได้ ส่วน SSSG ตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวก YoY
BEM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท) คาดถึงความชัดเจนมากขึ้นต่อประเด็นการประมูลสายสีส้ม หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในไตรมาส 3/23 สมมติฐานของเรายังเก็บโครงการไว้กับ BEM เพราะบริษัทเข้าร่วมประมูลและชนะการประมูลอย่างถูก กฏหมาย