KS Daily View 17.08.2023 >>> คาดดัชนีฟื้นตัวต่อหลังแนวรับสำคัญยังเอาอยู่ บรรยากาศการเมืองในประเทศแนวโน้มเป็นบวก ลุ้นจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในสิ้นเดือน ประเมินกรอบซื้อขาย 1,515-20/1,535  หุ้นแนะนำ CRC COM7

สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้

ต่างประเทศ: : ดัชนี DJIA -0.52%, S&P 500 -0.76%, NASDAQ -1.15%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Utilities (+0.46%) ขณะที่ Consumer discretionary (-1.27%), Communication services (-1.21%), Real estate (-1.20%)

ในประเทศ: SET Index -1.17 pts. หรือ -0.08% ปิดที่ 1,519.56 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ CPAXT (+3.73%), CPN (3.05%), HANA (+14.83%), CPALL (+0.81%) ขณะที่ PTTGC (-5.81%), IVL (-5.56%), AOT (-0.71%), PTT (-0.69%)

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ: แวดล้อมตลาดต่างประเทศยังดูเป็นลบ แต่บรรยากาศการเมืองไทยภายในประเทศดูค่อยๆมีพัฒนาการเชิงบวก หลังเตรียมหารือกำหนดวันโหวตเลือกนายกรอบ 3 และคาดจะจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในสิ้นเดือนนี้ คาดกรอบซื้อขายวันนี้ที่ 1,515-20/1,535 จุด

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. ปัจจัยภายในประเทศของไทยดูมีพัฒนาการเชิงบวกหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องกรณีมติที่ประชุมสภาฯไม่ให้โหวตนายกซ้ำ เหตุผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง ขณะที่ฝั่งพิธาเผยจะไม่ยื่นร้องศาลด้วยตัวเองทำให้ประธานสภาฯเตรียมประสานงานหารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อพิจารณากำหนดวันโหวตเลือกนายกซึ่งล่าสุดมีข่าวอาจสามารถเรียกประชุมสภาฯโหวตนายกได้ในวันที่ 22 ส.ค. นี้ แต่ขอถกวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 18 ส.ค. นี้ก่อนเพื่อกำหนดวันเลือกนายกที่ทุกฝ่ายมีความพร้อมตรงกัน
  2. ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นลบหลังนักวิเคราะห์ในตลาดเริ่มมองมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เศรษฐกิจจีนปีนี้อาจโตไม่ถึง 5% หากไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางการออกมาช่วย สอดคล้องกับข้อมูลอัตราการเจริญพันธุ์ของคนจีนที่ตกต่ำเหลือเพียง 1.09 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์และต่ำสุดในประเทศที่มีประชากรเกิน 100 ล้านคน ไม่เพียงแต่แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจและประชากรจะต่ำ ล่าสุดมีการปรับเพิ่มอัตราคาดการณ์การผิดนัดชำระของพันธบัตรภาคเอกชนในจีนเพิ่มจาก 6% เป็น 9.7% หลังมองการผิดนัดชำระหนี้ของ Country Garden บริษัทอสังหาฯในจีนเพิ่มความเสี่ยงให้กับระบบโดยรวม (ข่าวเป็นลบกับกลุ่ม Global play เช่น Energy และ Petro)
  3. สำนักข่าวรายงานบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ในกรุงปักกิ่งเผยถึงสถานการณ์คนจีนเที่ยวต่างประเทศว่า ขณะนี้แม้ว่าจีนจะอนุญาตให้ประชาชนเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา และประเทศไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศนำร่อง แต่ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทำให้คนจีนส่วนใหญ่ยังเน้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก่อนหน้าได้ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยในปี 2566 จำนวน 5-8 ล้านคน ล่าสุดได้ปรับเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 5 ล้านคน และได้กล่าวว่าที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนเข้ามาแล้วราว 2 ล้านคน คงต้องลุ้นกันต่อว่าอีก 3 ล้านคนกับเวลาที่เหลือ 5 เดือนจะเป็นไปตามเป้าได้หรือไม่ หากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนไม่เป็นไปตามเป้าจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายรวม 25 ล้านคนด้วย (ข่าวเป็นลบกับกลุ่ม Tourism)
  4. บันทึกการประชุม FOMC ของเดือนก.ค.สะท้อนคณะกรรมการพร้อมพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อหากเห็นแรงกดดันเงินเฟ้อกลับมาเร่งตัว ทั้งนี้ Fed มองความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงเป็นด้านของการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะถัดไปยังคงขึ้นอยู่กับข้อมูลเงินเฟ้อและแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจหรือกล่าวคือการทำนโยบายแบบขึ้นอยู่กับข้อมูลหรือ data dependence

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้แนะนำกลยุทธ์ Selective Buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,515 – 1,565 จุด บนความคาดหวังการจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทย พร้อมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท และการพักชำระหนี้เกษตรกร

หุ้นแนะนำวันนี้

  • Top pick: CRC (ราคาพื้นฐาน 52.5 บาท) คาดบริษัทได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เวียดนามโดยเฉพาะการปรับลด VAT ที่ลดลงจาก 10% เหลือ 8% เป็นการชั่วคราวถึงสิ้นปีเชื่อกระตุ้นให้เกิดการเร่งใช้จ่ายในช่วงมาตรการ อีกทั้งมองบริษัทได้อานิสงค์จากโครงการ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” 10,000 บาท
  • Top pick: COM7 (ราคาพื้นฐาน 35.07 บาท) เก็งกำไรบนกำหนดการเปิดตัว iPhone 15 คาดยอดขายดี ตามกระแสอาจเห็น model change ที่มีความน่าสนใจ อีกทั้งผู้บริหารปรับกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพผลประกอบการโดยปิดสาขาไม่ทำเงิน สร้างรายได้เพิ่มจากพื้นที่ให้เช่าและเพิ่มแหล่งรายได้ของบริษัทจากการขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า มองแนวโน้มผลประกอบการเติบโตสูง ขณะที่ valuation ของหุ้นยังไม่แพง มี upside ส่วนต่างให้ลงทุน พร้อม yield ประมาณ 3%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสบดี ติดตามตัวเลขผู้รับขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯรายสัปดาห์ ตลาดคาดที่ 241k คน เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า 248k คน และตัวเลขภาคการผลิต Philly Fed ของสหรัฐฯสำหรับเดือนก.ค. ตลาดมองปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ -10 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -13.5 จุด
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขยอดผลิตและยอดขายรถยนต์ของไทยจากสภาอุตสหกรรม
- Advertisement -