บล.ฟิลลิป:
เบทาโกร – BTG 2H66 แนวโน้มต้นทุนเฉลี่ยดีขึ้น
Key Point
2Q66 ยอดขายลดลง y-y และ q-q จากราคาสุกรที่ปรับตัวลง GPM 10.5% ลดลง y-y และ q-q จึงมีขาดทุนสุทธิ -351 ลบ. -118.8%y-y -189.3%q-q 2H66 มองต้นทุนเฉลี่ยดีขึ้นกว่า 1H66 ส่วนราคาสุกรยังปรับตัวลงต่อจนถึงปัจจุบัน ในระยะถัดไปซัพพลายผิดกฎหมายค่อยๆ หมดไป จะทำให้ระดับราคาสุกรในประเทศปรับตัวดีขึ้น และ BTG ยังขยายการผลิตอย่างต่อเนื่อง ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 25.25 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ”
2Q66 ราคาสุกรร่วง กระทบกำไร
2Q66 รายได้ขายและบริการ 26,490.7 ลบ. -5.3%y-y -4.5%q-q จากธุรกิจอาหารและโปรตีนรายได้ลดลง y-y และ q-q จากราคาสุกรที่ลดลง จนถึงปัจจุบัน GPM 9.2% ลดลง y-y และ q-q แต่ยังมีกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น q-q จากการขยายการลงทุน ทำให้ 1H66 มีกำลังผลิตสุกรรวมเพิ่มขึ้น 12.3%y-y ขณะที่ไก่ผลิตลดลง -6.1%y-y เนื่องจากปลายปี 64 ได้ปิดโรงงานจากการแพร่ระบาดโควิด ทำให้มีสต๊อกอยู่มาก ทำให้ 1H65 ขายได้มากกว่าระดับปกติ และการจัดซื้อลูกไก่ในช่วงต้นปีนี้ค่อนข้างยาก ทำให้รอบการผลิตในช่วง 2Q66 ลดลง q-q
ธุรกิจเกษตรรายได้เพิ่มขึ้น y-y ลดลง q-q โรงงานอาหารสัตว์ที่นครราชสีมาเปิดในช่วง 2Q65 มีกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มี GPM 12.8% ดีขึ้น y-y และ q-q จากการปรับพอร์ตขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงและต้นทุนที่ลดลงเล็กน้อย ปัจจุบันยังมีการขยายโรงงานเพิ่มเติมที่ฉะเชิงเทรา
ธุรกิจต่างประเทศรายได้เพิ่มขึ้น y-y และ q-q, GPM 7.8% ลดลง y-y ดีขึ้น q-q, 1H66 เพิ่มกำลังผลิตสุกรขุน +143.7%y-y เพิ่มกำลังผลิตไก่ +31.8%y-y อาหารแปรรูป +80.9%y-y ปัจจุบันปรับพอร์ตขายอาหารได้เพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 18% ในปี 65 ส่วนที่เหลือเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันมีการขยายอาหารเลี้ยงสัตว์ 1Q67 และฟาร์มสุกรขุนในลาว 2Q66 โรงชำแหละสุกรในกัมพูชา 1Q66
ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง รายได้ลดลง y-y และ q-q, GPM 25.8% ดีขึ้น y-y และ q-q ปริมาณการผลิต 1H66 ลดลง -11.2%y-y จากคำสั่งซื้อที่ชะลอตัว แต่ปรับสัดส่วนสินค้า Premium เพิ่มขึ้นที่ 12% จาก 7% ในปี 65 ปัจจุบันมีการขยายโรงงานเพิ่มใน 1H67
GPM รวม 10.5% ลดลง y-y และ q-q, SG&A ต่อรายได้ 11.58% เพิ่มขึ้น y-y และ q-q เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาปรับโครงสร้างธุรกิจ จึงมีผลขาดทุนสุทธิ 351 ลบ. -118.8%y-y -189.3%q-q
2H66 ต้นทุนเฉลี่ยดีขึ้น
แม้ยูเครนมีการหยุดการส่งออกธัญพืช-ข้าวสาลี แต่ต้นทุนข้าวโพดและถั่วเหลืองมีแนวโน้มลดลงใน 2Q66 ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยโดยรวมลดลง ซึ่งจะทำให้ 2H66 มีต้นทุนที่ลดลง ปริมาณหมูในระบบที่แท้จริงยังต่ำกว่าช่วงก่อน ASF หากตัดซัพพลายที่ผิดกฎหมายออกก่อน ASF มีปริมาณหมูประมาณ 20 ล้านตัว/ปี ปัจจุบันยังมีปริมาณซัพพลายต่ำกว่าที่ประมาณ 16.8-17 ล้านตัว/ปี คาดว่าจะกลับเข้าสู่ระดับปกติได้ในปี 67-68 ยังทำให้ BTG วางแผนการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว หากราคาสุกรปรับตัวดีขึ้นจะกลับมาฟื้นตัวได้ดี
ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 25.25 บาท/หุ้น อิง P/E 14.02 เท่า
ทางฝ่ายประเมินราคาหุ้น โดยใช้ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี เนื่องจากสะท้อนภาพของธุรกิจปัจจุบันได้เป็นอย่างดีอยู่ที่เฉลี่ย 14.02 เท่า ราคาสุกรในประเทศยังปรับตัวลงต่อจนถึงปัจจุบัน ในระยะถัดไปซัพพลายผิดกฎหมายจะค่อยๆหมดไปจากรัฐที่เข้ามาควบคุม จะทำให้ระดับราคาสุกรในประเทศปรับตัวดีขึ้นได้หลังจากนี้ และ BTG ยังขยายการผลิตอย่างต่อเนื่อง คาดกำไรสุทธิปี 67 ที่ 3,430 ลบ. +261.0%y-y ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 25.25 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ”
ความเสี่ยง
- การเกิดโรคระบาดต่างๆในสัตว์
- ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์
- ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน