ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม / 1,520-1,540
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET แกว่งตัวออกด้านข้าง : หลังวานนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติประกาศเข้าร่วมรัฐบาลกับพันธมิตรพรรคเพื่อไทย พร้อมชื้จุดยืนมีความสอดคล้องกัน คือ ไม่มีพรรคก้าวไกลรวมอยู่ในสมการ และไม่แก้ไขมาตรา 112 และยืนยันไม่มีการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน สร้างความชัดเจนในประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลมากขึ้น ยังมองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก อสังหาฯ ก่อสร้าง และกลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่วานนี้นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน มูลค่า 782.30 ลบ. รวมถึงยังซื้อสุทธิใน SET50 Futures กว่า 19,259 สัญญาโดยทางฝ่ายมองปัจจัยหนุนมาจากตลาดเอเชียเป็นแหล่งพักเงินที่ดี ท่ามกลางความกังวลในภาพรวมเศรษฐกิจจีน สหรัฐ และ ยูโรโซน รวมถึงความชัดเจนทางการเมืองที่ได้กล่าวมา อย่างไรก็ดีมองปัจจัยกดดันตลาดมาจาก 1) ความกังวลในทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟด ที่อาจยังไม่จบ วานนี้ 10-Year US Bond Yields ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 4.3% สูงสุดในรอบ 15 ปี กดดันต่อภาพรวมการลงทุน 2) บริษัทอสังหายักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Evergrand วานนี้ขอยื่นคำร้องลับละลายต่อศาลนิวยอร์ก หลังประสบปัญหาหนี้สินอย่างหนักในปี 64 สร้างแรงกดดันต่อความคาดหวังการฟื้นตัวของจีน 3) ญี่ปุ่นเช้านี้เปิดเผยตัวเลข Core CPI ออกมาชะลอตัวลงมาที่ 3.1%y-y แต่ยังเพิ่มขึ้น m-m ส่งผลให้แรงกดดันด้านนโยบายการเงินของญี่ปุ่นยังเป็นที่จับตาความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่การประชุม Jackson Hole ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐต่อไป
- กลยุทธ์การลงทุน: 1) การเมืองไทยเตรียมเดินหน้า: CK, GULF, KBANK, STEC 2) Spending+ท่องเที่ยว: BA, CENTEL, COM7, ERW, MINT, SÄPPE, SAWAD, CBG 3) หุ้นงบดีช่วงครึ่งปีหลัง: WHA, CPAXT, AOT 4) หุ้นปันผล: ADVANC, SPALI
ปัจจัยบวก
- จีนดึงน้ำมันดิบในคลังมาใช้ในเดือนก.ค. ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เนื่องจากการนำเข้าที่ชะลอตัวลงและโรงกลั่นน้ำมันต่าง ๆ จำเป็นต้องผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น และการส่งออกเชื้อเพลิงกลั่นที่เพิ่มมากขึ้น
- ต่างชาติเที่ยวไทยทะลุ 16 ล้านคน โดยมาเลย์ครองแชมป์อันดับ 1 รองลงมาคือจีน
- DBD เผยไทยมียอดลงทุนประกอบธุรกิจจากชาวต่างชาติกว่า 58,950 ล้านบาท โดยญี่ปุ่นแห่ลงทุนมากสุดถึง 19,893 ล้านบาท
ปัจจัยลบ
- เกาหลีเหนือเตรียมยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ตอบโต้ซัมมิตสหรัฐ- เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น สร้างความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์อีกครั้ง
- มอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 โดยระบุว่าการลงทุนภายในประเทศอ่อนแอลง เนื่องจากการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการที่รัฐบาลท้องถิ่นของจีนเผชิญกับแรงกดดันด้านการเงิน
- ฟิทช์จะทบทวนปรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในระยะกลางของประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วลง รวม 10 ประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐ อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่น
PICKS OF THE DAY
CBG BUY
- เป้าหมาย 80.00 / 83.00 แนวรับ 74.00 / 76.00
- ยอดขายภายในประเทศโต: กำไรโต 83%q-q ปัจจัยหลักมาจากการชิงส่วนแบ่งทางการตลาดภายใน ประเทศจากคู่แข่งที่ขึ้นราคาร่วมกับราคาวัตถุดิบที่ชะลอตัวลง ถึงแม้มาร์จิ้นจะปรับตัวลดลงเป็น 27% จาก 31% ใน1Q66 จากราคาต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นแต่บริษัทก็ยังสามารถทำกำไรโต q-q
- คาด 2H66 มาร์จิ้นฟื้นตัว: ทางฝ่ายคาดแนวโน้มราคาวัตถุดิบและค่าไฟต่อหน่วยจะลดลงต่อเนื่องจาก 2Q66 ร่วมกับ Market share ที่สูงขึ้นหนุนมาร์จิ้นในครึ่งหลังของปี
- จ่ายปันผลระหว่างกาล: บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.40บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 24 สค. 66
SAWAD BUY
- เป้าหมาย 46.00 / 47.50 แนวรับ 44.00
- 3Q66 จะรับรู้รายได้จาก บ.เงินสดทันใจเต็มไตรมาส: SAWAD ได้มีการซื้อหุ้น บ.เงินสดทันใจคืนจาก ธ.ออมสิน และใน 3Q66 จะมีการรับรู้รายได้จาก บ.เงินสดทันใจเต็มไตรมาส
- การตั้งสำรองจะลดลงมากใน 3Q66: ใน 2Q66 มีการตั้งสำรองจากการเสื่อมค่าของหลักประกันในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และ SCAP นอก จากนี้ยังมีการตั้ง Management overlay เพิ่มด้วย ซึ่งจะไม่มีการตั้งใน 3Q66 ซึ่งจะทำให้การตั้งสำรองลดลงมาก และจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นสูง