บล.กรุงศรีฯ:
BTS GROUP HOLDINGS (BTS TB/ BTS.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | ขนส่งและโลจิสติกส์ |
หุ้น | BTS |
มูลค่าพื้นฐาน | 9.46 |
คำแนะนำ | BUY |
เรายังคงคำแนะนำซื้อ BTS และประเมินราคาเป้าหมายที่ 9.46 บาท เรามองว่ากรณีพิพาทกับหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นตกในช่วงที่ผ่านมา กำลังมีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ตุลาการผู้แถลงคดีพิพาทหนี้ O&M มีความเห็นไปทางที่เป็นคุณกับ อย่างไรก็ตาม ทั้งเราและนักวิเคราะห์ในตลาดมีแนวโน้มจะปรับลดประมาณการของ BTS ลงจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงของตัวบริษัทเอง และบริษัทย่อย แต่เราเชื่อว่าราคาหุ้นน่าจะสะท้อนประเด็นนี้ไปมากแล้ว
ข้อมูลที่ได้จาก conference call มีทั้งบวกและลบปนกัน
BTS จัด conference call เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งเรามองว่าข้อมูลที่ได้มีทั้งบวกและลบปนกัน โดยในแง่บวกคือประเด็นเกี่ยวกับหน่วยงานกำกับดูแล ในขณะที่แนวโน้มผลประกอบการของทั้งบริษัท และบริษัทย่อยดูไม่สดใส โดยประเด็นสำคัญมีดังนี้ (i) ในส่วนของกรณีการฟ้องร้อง กทม./KT ตุลาการผู้แถลงคดีได้มีความเห็นให้ยืนตามศาลปกครองกลาง ที่มีคำพิพากษาให้กทม./KT ชำระหนี้ที่ เกิดขึ้นตามสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยาย (O&M) 1.17 หมื่นล้านบาทให้กับ BTS ถึงแม้ยังต้องรอฟังคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุด แต่ตามปกติแล้วศาลปกครองสูงสุดมักจะพิพากษาไปในทางเดียวกันกับตุลาการผู้แถลงคดี โดย BTS คาดว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาออกมาภายในหนึ่งเดือนหลังจากที่ตุลาการผู้แถลงคดีมีความเห็นออกมา (ii) ในส่วนของงาน E&M บริษัทคาดว่าสภากทม. จะพิจารณาจ่ายหนี้งาน E&M 2.2 หมื่นล้านบาทให้กับ BTS ประมาณต้นเดือนกันยายนนี้ (iii) บริษัทยอมรับว่าหลังจากที่รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2023 จำนวนผู้โดยสารยังต่ำกว่าช่วงที่เปิดทดลองให้ใช้บริการฟรีหนึ่งเดือน (90,000-100,000 เที่ยว/วัน) ซึ่งบริษัทคิดว่าราคาอาจจะสูงเกินไปสำหรับผู้โดยสาร ดังนั้น บริษัทจึงมีการพิจารณาจัดโปรโมชันราคาเพื่อกระตุ้นยอดผู้โดยสาร (iv) บริษัทยังมั่นใจว่าการลงทุนในบริษัทย่อยจะช่วยสร้าง synergies ภายในเครือ BTS ยกเว้น KEX ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทหาทางจะหยุดหรือจำกัดผลขาดทุนก้อนใหญ่ของ KEX
กระแสเงินสดดีขึ้น แต่เราน่าจะปรับลดประมาณการกำไรลงอีก
พัฒนาการด้านบวกเกี่ยวกับกรณีพิพาทกับหน่วยงานกำกับดูแลจะช่วยหนุนให้กระแสเงินสด และงบดุลของ BTS ดีขึ้น แต่จะไม่ส่งผลกับงบกำไรขาทุน (P&L) เพราะ BTS บันทึกรายได้ค้างรับ (accrual basis) จากงาน O&M ไปแล้ว ในขณะที่จำนวนผู้โดยสารที่ลดลงของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และอาจจะรวมถึงสายสีชมพูที่จะเปิดดำเนินการในต้นปี 2024 จะกระทบกับกำไรของ BTS ในปี FY23-24 เราคาดว่าบริษัทจะขาดทุน 10 ล้านบาทในปี FY24 โดยมีจำนวนผู้โดยสารสายสีเหลืองอยู่ที่ 90,000 เที่ยว/วัน ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ sensitivity ของเรา พบว่าจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงทุก ๆ 1,000 เที่ยว/วัน จะทำให้ขาดทุน 7.1 ล้านบาท นอกจากนี้ VGI (BTS ถือหุ้น 61%) ยังมีแววจะขาดทุนหนักกว่าที่เราคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น เราจึงจะทบทวยประมาณการของ BTS อีกครั้งหลังจาก VGI จัดประชุมนักวิเคราะห์
คงคำแนะนำซื้อ BTS
ถึงแม้ประมาณการของบริษัทจะมีแนวโน้มถูกปรับลดลง แต่เรายังคงคำแนะนำซื้อ BTS โดยมองว่ากรณีพิพาทกับหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยลบที่กดดันราคาหุ้น BTS ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา กำลังมีพัฒนาการไปในทางบวก ซึ่งเราเชื่อว่าราคาหุ้นน่าจะตอบรับในทางบวก