วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,517 / 1,507 แนวต้าน 1,537 / 1,546 คาดอาจมีแรงเก็งกำไรตามคาดชัดเจนทางการเมืองบ้าง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างประเทศยังกดดันได้ต่อเนื่องจาก US Bond Yield ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อ และปัญหาเศรษฐกิจจีนกดดัน ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้ากว่าคาด คาดจะจำกัด Upside ได้อยู่
Our View? “ผันผวน”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,517 / 1,507 และแนวต้านที่บริเวณ 1,537 / 1,546 เราคาดว่าการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bond Yield) โดยเฉพาะรุ่นอายุ 10 ปี ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเช้านี้อยู่ที่ระดับราว 4.34%+/- ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินในระยะกลาง-ยาวสูงขึ้น และเป็นการบ่งชี้ถึงคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนาน โดยเรายังคงมุมมองหากเศรษฐกิจสหรัฐไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 1Q’67 คาดมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปได้อีก และเป็นปัจจัยลดทอนความน่าสนใจของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงใน เชิงเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัย จำกัด Upside ของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ ทั้งนี้เรายังมองตลาดจะรอติดตามการประชุมเศรษฐกิจที่ Jackson Hole ในวันที่ 25 ส.ค. นี้ ซึ่งคาดว่าคุณเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มในการปรับใช้นโยบายทางการเงินในระยะถัดไปได้ชัดเจนมากขึ้น ขณะที่เมื่อวานนี้เรามีมุมมองเชิงลบต่อการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) อายุ 1 ปีลงเพียง 0.10% สู่ระดับ 3.45% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและยังคงอัตรา ดอกเบี้ย LPR อายุ 5 ปีที่ระดับ 4.20% บ่งชี้ถึงความไม่พร้อมในการใช้การผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องจะส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าได้ต่อ ลดทอนความคาดหวังในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากจีนกำลังเผชิญการภาวะเงินฝืด รวมทั้งวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยังกดดันต่อเนื่อง มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อทิศทางตลาดในภูมิภาคได้
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ล่วงหน้าส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้อ่อนตัวลงอีกครั้ง หลังพยายามฟื้นตัวขึ้นปิดที่ระดับ 80.72 ดอลลาร์ -0.53 ดอลลาร์ (-0.65%) คาดได้รับแรงกดดันจากการที่ PBOC ปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด ลดทอนแนวโน้มในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความไม่แน่นอนของอุปสงค์น้ำมันในจีนเช่นกัน คาดจะกลับมากดดันทิศทางราคาน้ำมันดิบได้อีกครั้ง อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเชิงบวกในระยะกลางของทิศทางราคาน้ำมันจากการที่อุปทานน้ำมันดิบ มีแนวโน้มตึงตัวจากการที่ OPEC+ ยังควบคุมนโยบายกำลังการผลิตเข้มงวดต่อเนื่อง ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐในปัจจุบันที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนในระยะถัดไป คาดจะเป็นปัจจัยจำกัด Downside ของราคาน้ำมันดิบได้ แนะนำรอทยอยซื้อสะสมหุ้นในกลุ่ม พลังงานตามแนวรับสําคัญ
สําหรับปัจจัยภายในประเทศวันนี้ติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค. นี้ คาดจะส่งผลให้ตลาดมีการรีบาวด์ได้บ้าง คาดจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นในกลุ่ม Domestic Play อาทิ หุ้นในกลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD, TIDLOR, AEONTS และ BAM) จากแนวโน้มในการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ และมีโอกาสออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง อย่างไรก็ตามเรายังคงมุมมองความล่าช้าในการจัดวางบประมาณรายจ่ายประจำปีล่าช้าออกไปมาก คาดจะไม่ทันปีงบประมาณ 67 ในเดือน ต.ค. และ ส่งผลให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนล่าช้าออกไป ทำให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสิ้นปี’66 เป็นไปได้ยาก คาดจะกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ ขณะที่หากพิจารณาในแง่ประมาณการกำไรของบจ. ในตลาดล่าสุดหลังจบฤดูกาลประกาศผลประกอบการ 2Q66 Bloomberg Consensus คาด EPS ตลาดหุ้นไทยปี’66 อยู่ที่ระดับ 89.8 บาท/หุ้น ทำจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นต่อเนื่อง ทำให้ Forward PE ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง บ่งชี้ถึงความน่าสนใจในเชิง Valuation ลดลงต่อเนื่อง คาดกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ อีกทั้งการรายงานตัวเลข GDP 2Q’66 ออกมา +0.2%QoQ และ +1.8%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้า บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้มาก และสะท้อนถึงกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอ คาดจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดเริ่มพูดถึงแนวโน้มที่ กนง. จะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. นี้จำกัด Upside ของหุ้นในกลุ่มธนาคาร
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนาวำนนี้ “MTC”
- คาดจะได้รับแรงเก็งกำไรจากแนวโน้มการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ อีกทั้งการที่ GDP 2Q’66 ของไทยอ่อนแอ คาดจะกระตุ้นการพูดถึงแนวโน้ม กนง. จะหยุดขึ้นดอกเบี้ย เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อ MTC
- ทางเทคนิค ราคาพยายามขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ หลังยกจุดต่ำสุดใหม่สูงขึ้นได้ เครื่องมือ MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
กลยุทธ์ ซื้อสะสม แนวรับ 38.50 / 37.50 Target 42.00 / 47.00 Stop <36.25