ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม / 1,520-1,540

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET เดินหน้าในแดนบวก และลุ้นทะยานท้ายตลาด : ทางฝ่ายเริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อพัฒนาการทางการเมืองไทย หลังวานนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฯ รวม 314 เสียงได้แถลงถึงความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีมติร่วมกันเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เพื่อให้ความเห็นชอบเป็นนายกฯ พร้อมแสดงถึงความมั่นใจว่าจะสอบผ่าน รวมถึงมีการแบ่งโควต้ารมว.กับพรรคร่วมฯ และบรรลุข้อตกลงร่วมกันจะนำนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้เป็นนโยบายหลักในการบริหารประเทศ เป็นการสะท้อนภาพการเมืองไทยที่มีความคืบหน้ามากขึ้น ทั้งนี้ติดตามการโหวตนายกฯ ในวันนี้ หากลุล่วงไปด้วยดีจะเป็นแรงหนุนต่อ SET Index หุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับการเมือง รวมถึงเป็นแรงบดบังปัจจัยลบอย่างการปรับลดประมาณการ GDP ปี 66 ของสภาพัฒน์ ลงสู่ 2.5-3.0% จากเดิมที่ 2.7-3.7% ขณะที่หุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยยังได้แรงหนุนจากภาพการฟื้นตัวของการบริโภค สะท้อนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัว 7.8%y-yใน 2Q66 อีกทั้งสภาพัฒน์ได้ปรับประมาณการขยายตัวของตัวเลขดังกล่าว สำหรับปี 66 ขึ้นสู่ 5.0% จากเดิมที่ 3.7% อย่างไรก็ดี ทางขึ้นของ SET Index คาดถูกจำกัดจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของศก.จีน และมาตรการกระตุ้นศก.ของจีนที่ยังไม่มากพอที่จะพยุงศก.ให้ฟื้นตัวขึ้นได้ สอดรับกับการที่ PBOC ปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีลง 0.10% สู่ระดับ 3.45% เมื่อวานนี้ แต่คงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ ซึ่งได้สร้างความผิดหวังให้กับตลาด  เนื่องจากตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า PBOC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ทั้งประเภท 1 ปี และ 5 ปี ลง 0.15%
  • กลยุทธ์การลงทุน: 1) Spending: CBG, COM7, CPALL, CPAXT, CRC, MINT, SAPPE 2) หุ้นรับอานิสงส์การเมือง: CK, EA, GULF, GUNKUL, KBANK, MTC, SAWAD, SCB, STEC, STPI, TIDLOR และ 3) Selective play: BRI, ITEL, LH

ปัจจัยบวก

  • กรมธุรกิจพลังงานเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 1H66 เฉลี่ยอยู่ที่ 156.74 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 2.7% y-y และคาดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 2H66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% y-y จากการฟื้นตัวของศก.และการปรับตัวของธุรกิจที่พึ่งพาการขนส่งมากขึ้น
  • รมว.พาณิชย์เผยว่าในเดือนก.ค.66 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ 6,848 ราย เพิ่มขึ้น 16.90%y-y โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 16,648.21 ลบ.สูงสุดในรอบ 10 ปี ของเดือนก.ค. 57-66 โดยได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่เติบโต
  • Caixin Media เผยว่ารัฐบาลกลางของจีนวางแผนที่จะอนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นจําหน่ายพันธบัตรพิเศษมูลค่า 1.5 ล้านล้านหยวน โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมเงินทุนในการบรรเทาหนี้สิน

ปัจจัยลบ

  • นิกเกอิเอเชียเผยว่าพื้นที่ว่างในสำนักงานให้เช่าชั้นนำส่วนใหญ่ของจีนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากบรรดาธุรกิจพยายามลดค่าใช้จ่ายด้านการเช่าพื้นที่สำนักงาน หลังศก.จีนไม่ฟื้นตัวอย่างที่เคยคาดไว้
  • Mortgage News Daily เผยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจํานองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 726,200 ดอลลาร์ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 7.48% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.43

PICKS OF THE DAY

CRC BUY

  • เป้าหมาย 41.00/42.00 แนวรับ 38.00/39.00
  • 2Q66 กำไรสุทธิโตต่อ และ1H66 กำไรสุทธิโต 37%y-y: เนื่องจากการบริหารงานมีความยืดหยุ่น และคล่องตัว นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากความสำเร็จของการขยายสาขาครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี หนุนกำไรสุทธิ 2Q66 อยู่ที่ 1,690 ลบ. (+5% y-y) และ1H66 อยู่ที่ 4,002 ลบ. (+37%y-y)
  • การบริโภคภาคเอกชน ยังโตต่อ เนื่อง: สภาพัฒน์ เผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวได้ต่อเนื่องพร้อมชี้ เป้าหมายนักท่องเที่ยว 28 ล้านคน ยังมีโอกาส เนื่องจากช่วงปลายปีจะมีแรงหนุนจากการเป็นช่วง Peak time ของการท่องเที่ยว เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก

STEC BUY

  • เป้าหมาย 12.00/12.40 แนวรับ 11.30 
  • การเมืองหนุน ได้ประโยชน์จากทุกสูตรจับขั้วรัฐบาล: ทางฝ่ายมองทุกสูตรจับขั้วรัฐบาลในปัจจุบัน จะหนุนให้บริษัทได้ประโยชน์จาก Sentiment หุ้นอิงการเมือง และไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นรัฐบาล โครงการ Infrastructure ที่รออนุมัติอยู่จะยังคงเดินหน้าต่อไป
  • คาด 2Q66 มีโอกาสเติบโต y-y: จากในปีนี้เป็นปีแรกของการไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้มีโอกาสรับรู้ร้อยละของงานก่อสร้างแล้วเสร็จราบรื่นขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog ราว 1.1 แสนลบ. ยิ่งหากการเมืองไทยคืบหน้า จะยิ่งช่วยหนุนให้ปีนี้จะมีงานประมูลเพิ่มมากขึ้น เช่น โครงการรถไฟ High Speed เชื่อม 3 สนามบิน, โครงการพัฒนาเขต EEC เป็นต้น
- Advertisement -