บล.ไอร่าฯ จ่อผนึกตลาดหลักทรัพย์โตเกียว จัดสัมมนา “Japanese Equity Investment” เดินเกมรุก ดึงนักลงทุนไทยลงทุนตลาดหุ้นญี่ปุ่น
บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) (“บล.ไอร่าฯ) เสิร์ฟข่าวดี เตรียมผนึกกำลังตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange : TSE) จัดงานสัมมนา “Japanese Equity Investment” 24 ส.ค.นี้ ดึงนักลงทุนไทยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
นายไพโรจน์ เหลืองเถลิงพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) (“บล.ไอร่าฯ”) เปิดเผยว่า บล.ไอร่าฯ เตรียมผนึกกำลังกับตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange : TSE) และ Sumitomo Mitsui Trust Asset Management จัดงานสัมมนาแบบ Exclusive ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ : Japanese Equity Investment เพื่อแนะนำให้นักลงทุนไทยรู้จักและเข้าไปลงทุนในตลาดญี่ปุ่นมากขึ้น โดยงานจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2566 เวลา 17.30 น. ที่โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ ซึ่งจะมีวิทยากรร่วมบรรยายจาก 4 แห่ง ได้แก่ Tokyo Stock Exchange , Sumitomo Mitsui Trust Asset Management , Mita Capital (Sinagpore) และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอร่า จำกัด (“AIAM”) มาร่วมพูดคุยเรื่องการลงทุนในญี่ปุ่นและการลงทุนทั่วโลก
การที่ Tokyo Stock Exchange(TSE) ร่วมเป็นพันธมิตรกับ บล.ไอร่าฯ ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำศักยภาพการของกลุ่ม ไอร่า กรุ๊ป ในการขยายเครือข่ายพันธมิตรต่างประเทศ ซึ่งเป็นการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ บล.ไอร่าฯ ยังประสานงานกับสถาบันการเงินอื่นๆ ของญี่ปุ่น ที่มีบริษัทลูกค้าญี่ปุ่นสนใจลงทุนในบริษัทในประเทศไทย ในลักษณะ Direct Investment ซึ่งจะเป็นการเพิ่มนักลงทุนในหุ้นสามัญไทยช่วงที่บริษัทโดยทั่วไปมีสัดส่วนหนี้สินค่อนข้างสูง
โดยที่ผ่านมา บล.ไอร่าฯ ได้ทำ Cross Boarder M&A กับบริษัทญี่ปุ่นมาหลายรายการ ตัวอย่างธุรกิจที่อยู่ในความสนใจ เช่น อาหาร, การขนส่ง, ไอที, บรรจุภัณฑ์, ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา วิศวกรรมระบบไฟฟ้าและเครื่องกลภายในอาคาร การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การร่วมพันธมิตรในครั้งนี้ จะทำให้ “ไอร่า กรุ๊ป” จะมีผลิตภัณฑ์และบริการจากต่างประเทศที่หลากหลายมากขึ้น ที่สำคัญสามารถขยายฐานกลุ่มนักลงทุนในต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้มากขึ้นด้วย เนื่องจาก Tokyo Stock Exchange เป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่และเป็นที่รู้จักของกลุ่มนักลงทุนทั่วโลก ดังนั้นเชื่อว่าการผนึกกำลังในครั้งนี้ จะช่วยดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าในประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น