ประเมินดัชนีตอบรับเชิงบวกจากการเมืองไปพอสมควรแล้ว

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.5% นักลงทุนยังคงกังวลว่าดอกเบี้ยจะอยู่ระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.5% จากการที่นักลงทุนประเมินว่าอุปสงค์ในจีนยังไม่แข็งแกร่ง

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมาผลโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 พบว่าเป็นคุณเศรษฐา ทวีสิน จากนี้รอติดตามการแบ่งกระทรวงต่างๆ จากพรรคร่วมรัฐบาล สำหรับในแง่ผลกระทบต่อตลาดหุ้น เราประเมินว่าการฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดล่าสุดที่ 1506 หรือคิดเป็นการฟื้นตัวขึ้นมา 2.6% เชื่อว่าตอบรับหรือ Price In ไปบ้างแล้ว และเมื่อประกอบกับปัจจัยพื้นฐานที่ Bloomberg Consensus ปรับ SET EPS 23 ลงต่อเนื่องล่าสุดอยู่ราวๆ 89.7 บาท / หุ้น ซึ่งทำให้ Earnings Yield Gap ปรับลงมาอยู่ในระดับ -1SD บ่งชี้ว่า ณ ปัจจุบัน Valuation ไม่ถูกเท่าใดนัก ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศก็ยังดูไม่เป็นบวกกับตลาดหุ้น จากการที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มอยู่ระดับสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่ยังปรับลงได้มีมากนักทั้งสหรัฐฯ และยุโรป แต่ดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูงจะเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน สะท้อนผ่านการส่งออกหลายๆ ประเทศที่เห็นการหดตัว ขณะเดียวกันช่วงบ่ายวันนี้ฝั่ง EU มีกำหนดรายงาน PMI คาดการณ์จาก Bloomberg Consensus พบว่าส่วนใหญ่แล้วภาคผลิตต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของการผลิตและคืนนี้สหรัฐฯ มีกำหนดรายงาน PMI สำหรับภาคผลิต Bloomberg ประเมินที่ 48.9 และภาคบริการประเมินที่ 52.1 ดังนั้นเชื่อว่า จากนี้ Upside SET INDEX จะเริ่มน้อยลงแม้จะมีความคาดหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็เชื่อว่าแรงกดดันจากต่างประเทศจะส่งผลเชิงลบมากกว่า สำหรับเมื่อคืนสหรัฐฯ รายงานยอดขายบ้านมือสองที่ 4.07 ล้านหลังคาเรือนต่ำกว่าที่ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 4.15 ล้านหลังคาเรือน (ทิศทางปรับลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุดที่ 6.5 ล้านหลังคาเรือน)

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1530 – 1550 เชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะทยอยลดพอร์ตการลงทุน จากการที่ตลาดรับรู้ปัจจัยบวกด้านการเมืองไปพอสมควรแล้ว ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังเต็มไปด้วยความเสี่ยง  สำหรับหุ้นแนะนำ Trading ระยะสั้น แนะนำกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (TIDLOR) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ขนส่ง (BEM) อสังหาริมทรัพย์ (SPALI)

หุ้นแนะนำเชื้อวันนี้

BEM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท) กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 901 ล้านบาท (+42%YoY +20%QoQ) สูงสุดในรอบ 15 ไตรมาส สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาด การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสารในระบบ MRT และปริมาณจราจรบนทางพิเศษที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง จากการกลับมาของจำนวนนักท่องเที่ยวและการยกเลิกนโยบายทำงานที่บ้าน ส่วนที่ปรับดีขึ้น QoQ เป็นเพราะเงินปันผลรับจาก TTW และ CKP ทั้งนี้เราคาดว่าค่าโดยสาร MRT จะทำยอดสูงเป็นประวัติการณ์ได้ในไตรมาส 4/23 หนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและประโยชน์จากการขยายเครือข่ายระบบราง

BJC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท) การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ให้ภาพเชิงบวก โดยเราคาดการณ์ว่ากำไรครึ่งหลังปี 2023 จะโตแข็งแกร่ง HoH หนุนจากการปรับปรุงสาขา BigC รายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้น และอัตรากำไรในธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสินค้าเพื่อผู้บริโภคที่ปรับดีขึ้น สำหรับการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง ส.ค. 2023 (MTD) ปรับดีขึ้น MoM หลังจากย่อตัวเหลือราว 1%-3% ในเดือน ก.ค. 2023 ปัจจัยบวกระยะสั้นคือการจดทะเบียน BigC เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2023

- Advertisement -