การเมืองดี ปากท้องดี ตลาดดี / 1,545-1,560
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET ซิกแซกขึ้นได้ : ตามปัจจัยหนุนหลักคือการเมืองในประเทศมีความชัดเจน โดยนายกคนใหม่จากพรรคเพื่อไทย จะเริ่มการปฎิบัติงานได้ปลาย ก.ย. นี้ ซึ่งยังเหลือเพียงกระบวนการถวายสัตย์ปฏิญาณ แถลงนโยบาย (ภายใน 15 วันหลังถวายสัตย์ปฏิญาณ) และแต่งตั้ง ครม. หุ้นในกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว อสังหาฯ การเงิน ธนาคาร และก่อสร้าง คาดยังได้รับอานิสงส์บวกต่อ ขณะที่วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการจัดงาน Thailand Focus สถิติย้อนหลัง 5 ปี ชี้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นได้ 1.09% ในช่วงจัดงาน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลังที่ 1470.55 ลบ. คาดหนุนหุ้นในกลุ่ม Big Cap. ให้ปรับตัวขึ้นได้ ด้านปัจจัยภายนอก ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้รับแรงหนุน หลังวานนี้ Bond Yields สหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 4.97% และ 4.18% ตามลำดับ ลดค่าเสียโอกาสในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ทองคำ และดัชนีหุ้นสหรัฐปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลัง Nvidia ประกาศผลกำไรโตกว่า 843% รับอุปสงค์ใน AI โตเด่น คาดส่ง Sentiment บวกมายังตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน ด้านปัจจัยกดดัน ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแตะระดับ $78.5 ต่อบาร์เรลอีกครั้ง โดยสต๊อกน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.467 ล้านบาร์เรล คาดกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานในวันนี้ ปัจจัยที่ต้องจับตาต่อ คือ ถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด ในการประชุมที่ Jackson Hole หากยังมีทิศทางในเชิง Hawkish อาจกลับมากดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง
- กลยุทธ์การลงทุน: 1) การเมืองไทยเดินหน้า: CK GULF KBANK STEC WHA 2) Spending+ท่องเที่ยว: BA CENTEL COM7 ERW MINT SAPPE CBG 3) Thailand Focus: AOT SPA BDMS และ 4) Big Cap: KBANK CPALL ADVANC
ปัจจัยบวก
- FETCO เตรียมชงแผนกระตุ้นตลาดทุนให้รัฐบาลใหม่ เชื่อฟันด์โฟลว์ไหลเข้าหลังการเมืองชัดเจน มั่นใจจีดีพีไทยปีนี้ยังโตได้ 3%
- ก.ล.ต.เฮียริ่งปรับเกณฑ์ลงทุนโทเคนดิจิทัลขยายวงเงินลงทุน บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล
- บลูมเบิร์กระบุว่านักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดใจ และคาดว่าจะยังคงระดับการลงทุนหรือเพิ่มการลงทุนทองคําต่อไปในอีก 12 เดือนข้างหน้านี้ มองแนวโน้มเฟดใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ย
- สหรัฐยกเลิกข้อจํากัดที่บังคับใช้กับบริษัทและองค์กรของจีน 27 แห่ง ซึ่งนับเป็นสัญญาณการกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรกับจีน
ปัจจัยลบ
- เยอรมนีเผย PMI รวมภาคการผลิต-บริการเดือนส.ค.หดตัวมาก ที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ล่าสุดปรับตัวลดลงสู่ 44.7 จาก 48.5 ใน เดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2563
- ราคาก๊าซพุ่งทะยานขึ้นในเอเชียและยุโรปในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความวิตกกังวลว่าผลการประท้วง ในออสเตรเลียอาจขัดขวางการส่งออกจากโรงงานก๊าซ LNG แห่งสำคัญๆ
PICKS OF THE DAY
BA BUY
- เป้าหมาย 16.60/17.00 แนวรับ 15.50/15.70
- ผลกระทบจากค่าเงินลดลง: BA ได้มีการบริหารจัดการปัญหาเรื่องค่าเงิน จากขายเครื่องบินและชำระหนี้ดอลลาร์คืน และการ fix ค่าเงิน การอ่อนหรือแข็งค่าของดอลลาร์จะกระ ทบน้อยลง โดยเงินบาท/ดอลลาร์ทุก 1 บาท จากที่เคยกระทบราว 100 ลบ. จะเหลือ 10 ลบ. ทำให้งบการเงินแสดงการดำเนินงานได้ดีขึ้น
- 3Q66 เข้าสู่ high season เกาะสมุย: รายได้หลักของ BA มาจากเส้นทางบินเข้าออกเกาะสมุย ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ที่ราว 60% ใน 3Q66 เป็น high season ท่องเที่ยวของเกาะสมุย จะทำให้มีผู้โดยสารและราคาตั๋วปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งจะรับรู้ปันผล 1H66 ของ BDMS และ BAFS เข้ามา คาดกำไร 3Q66 จะดีขึ้นทั้ง q-q, y-y
KBANK BUY
- เป้าหมาย 136.00/140.00 แนวรับ 130.00/131.00
- ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และนโยบายรัฐ: คาดว่าผลตอบแทนสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นได้ต่อตามอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และนโยบายจากรัฐบาลที่จะมีการส่งเสริม SME และภาคเกษตร ซึ่ง KBANK เป็นธนาคารที่เป็นผู้นำทางด้านสินเชื่อ SME ประกอบกับมีสินเชื่อภาคเกษตรอยู่มาก
- KBANK มักจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ: KBANK มักจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อการเมืองมีความชัดเจน ได้รัฐบาลแล้ว คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุน และคาดว่าจะทำให้ KBANK เป็นธนาคารแรก ๆ ที่นักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุน