บล.บัวหลวง:

Residential Property – การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงในเดือน ก.ค. แต่ ส.ค. จะดีขึ้น (NEUTRAL)

AREA รายงานตัวเลขทั้งยอดเปิดตัวโครงการและอัตราการจองซื้อในเดือน ก.ค. 2566 ลดลง MoM แต่เราคาดยอดเปิดตัวโครงการจะเติบโตในเดือน ส.ค. เราแนะนำชื้อสะสม LH และ SC เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ แนวโน้มแข็งแกร่ง และผลตอบแทนจากเงินปันผลมหาศาล

โครงการเปิดตัวโดยรวมลดลง MoM ในเดือน ก.ค. หลังจากตัวเลขเดือน มิ.ย. ที่แข็งแกร่ง

AREA รายงานโครงการเปิดตัว 8,486 ยูนิตในเดือน ก.ค. 2566 ลดลง 25% MoM จากเดือน มิ.ย. (11,366 ยูนิต เป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน) เนื่องจากโครงการบ้านเดี่ยวและโครงการคอนโด โดยโครงการบ้านเดี่ยวเปิดตัว 2,985 ยูนิต ลดลง 4% MoM โดยเน้นไปที่โครงการระดับกลางถึงบน (5-10 ล้านบาท/ยูนิต) AP, PSH, SC, SIRI และ SPALI เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวในเดือน ก.ค. โครงการทาวน์เฮ้าส์เปิดตัว 2,321 ยูนิต เพิ่มขึ้น 22% MoM ขณะที่โครงการคอนโดเปิดตัว 3,085 ยูนิต ลดลง 52% MoM ส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับล่างถึงระดับกลาง (1-3 ล้านบาท/ยูนิต) สัดส่วนการเปิดตัวโครงการของบริษัทอสังหาฯ ที่จดทะเบียนฯ ลดลงจาก 86% ในเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ 77% ในเดือน ก.ค. ซึ่งหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ที่เราให้คำแนะนำ ไม่มีการเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่

สัดส่วนการเปิดตัวโครงการในเดือน ก.ค.แบ่งเป็นโครงการคอนโด 36% บ้านเดี่ยว 27% และโครงการทาวน์เฮ้าส์ 35% โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% MoM เนื่องจากมีโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ที่เปิดตัว มากขึ้น ราคาโครงการบ้านเดี่ยวใหม่เฉลี่ยอยู่ที่ 11.5 ล้านบาท/ยูนิต เพิ่มขึ้น 22% MoM เนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวราคาสุดพิเศษหลายโครงการในเดือนก.ค. โดย SC เปิดตัวโครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ยาร์ด บางนา (50 ล้านบาท/ยูนิต) และโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ปิ่นเกล้า-บรม (30 ล้านบาท/ยูนิต) ขณะที่โครงการคอนโดอยู่ที่ 2.3 ล้านบาท/ยูนิต ลดลง 19% MoM และโครงการทาวน์เฮ้าส์ อยู่ที่ 2.3 ล้านบาท/ยูนิต ลดลง 19% MoM อัตราการจองซื้อลดลงในเดือน ก.ค. แต่โครงการทาวน์เฮ้าส์และโครงการคอนโดเห็นสัญญาณฟื้นตัว อัตราการจองซื้อโครงการเปิดตัวใหม่ลดลงจาก 22% ในเดือน มิ.ย. มาอยู่ที่ 19% ในเดือน ก.ค. เนื่องจากโครงการบ้านเดี่ยว อัตราการจองซื้อโครงการบ้านเดี่ยวลดลงจาก 8% ในเดือน มิ.ย. มาอยู่ที่ 7% ในเดือน ก.ค. เนื่องจากยอดจองชื้อที่ลดลงของโครงการบ้านเดี่ยวช่วงราคา 5-10 ล้านบาท ขณะที่อัตราการจองซื้อโครงการคอนโดเพิ่มขึ้นจาก 33% ในเดือน มิ.ย. มาอยู่ที่ 38% ในเดือน ก.ค. ทั้งนี้ อัตราจองซื้อโครงการทาวน์เฮ้าส์ปรับตัวขึ้นจาก 6% มาอยู่ ที่ 9%

การเปิดตัวโครงการจะเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค. และเปิดตัวโครงการมากขึ้นในครึ่งหลังของปี 2566

เราคาดการเปิดตัวโครงการจะเพิ่มขึ้น MoM ในเดือน ส.ค. จากฐานที่ต่ำในเดือน ก.ค. จากแผนธุรกิจปัจจุบัน ของบริษัทกลุ่มอสังหาฯ ที่เราให้คำแนะนำ การเปิดตัวโครงการในปี 2566 จะเน้นไปที่ครึ่งหลังของปี 2566 (มูลค่าโครงการทั้งหมด 2.03 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% YoY และ 45% HoH) บริษัทกลุ่มอสังหาฯที่เราให้คําแนะนํา วางแผนที่จะเปิดตัวโครงการมูลค่ารวม 93 พันล้านบาทในช่วงไตรมาส 3/66 (เพิ่มขึ้น 50% YoY และ 29% QoQ) และ 1.1 แสนล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/66 เพิ่มขึ้น 42% YoY และ 18% QoQ เราคาดอัตราการจองซื้อเฉลี่ยในเดือน ส.ค. จะอยู่ในช่วง 20-30% อัตราการจองซื้อเฉลี่ย สําหรับโครงการแนวราบใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 7-10%

มูลค่าหุ้น

หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ที่เราให้คำแนะนำซื้อขายที่ค่าเฉลี่ย PER ปี 2566 เพียง 8.0 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต มากกว่า 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ปัจจุบันเราชอบ LH (บริษัทมีแผนที่จะขายโรงแรมสองแห่งในพัทยาให้ REIT ในไตรมาส 4/66) และ SC (การโอนโครงการอย่างต่อเนื่องและกําหนดการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้น)

- Advertisement -