ยังประเมินดัชนีจะมีอัพไซด์ที่เริ่มจํากัด

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 1.08% นักลงทุนขายลดความเสี่ยงก่อนที่คืนนี้ประธาน FED จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจําปีที่ Jackson Hole ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.2% หลังมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดีเชลใน EU ลดลง

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.3 แสนราย ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 2.39 แสนราย และรายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ -5.2%MoM แย่กว่า Bloomberg คาดการณ์ 4.1%MoM อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดพบว่า US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 ปี ปรับขึ้นสะท้อนความกังวลระยะสั้นเกี่ยวกับดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ คาดการณ์ว่าตลาดกังวลเล็กน้อยหลังผู้ขอสวัสดิการว่างงานออกมาต่ำกว่าตลาดประเมินไว้ โดยคืนนี้รอติดตามถ้อยแถลงจากประธาน FED ในงาน Jackson Hole ทั้งนี้ปัจจุบันสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ยมาเกินกว่าระดับเงินเฟ้อ ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยและเงินเพ้อปรับขึ้นมาเกินกว่าค่าเฉลี่ย และทิศทางเงินเฟ้อก็ปรับลงต่อเนี่อง จึงเชื่อว่าถ้อยแถลงของประธาน FED จะไม่ส่งสัญญาณเข้มงวดด้านนโยบายการเงินมากไปนัก อย่างไรก็ตาม กลับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เชื่อว่า Price in ประเด็นบวกด้านการผ่อนคลายนโยบายการเงินไปมากแล้ว

สำหรับปัจจัยในประเทศ เช้านี้รอติดตามตัวเลขส่งออก / นำเข้า Bloomberg Consensus คาดมูลค่าส่งออกจะหดตัว (-2.8%YoY) และนำเข้าหดด้ว (-8.8%YoY) หากแย่กว่าคาดจะเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดหุ้น และการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย ส่วนสัปดาห์หน้าสำหรับสหรัฐฯ รอติดตามเงินเพ้อ (PCE) ในวันพฤหัสบดี Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 3.3%YoY

วันนี้ประเมิน SET INDEX อ่อนตัวลงในกรอบ 1540-1555 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงคําแนะนําทยอยลดพอร์ตการลงทุน หลังดัชนี Price In ปัจจัยบวกด้านการเมืองไปมากแล้ว ขณะที่ช่วงถัดไปมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแรง รวมไปถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ Valuation ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และไทยไม่ได้อยู่ในจุดที่ถูกเท่าใดนัก ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นยังเน้นที่ Domestic Play เป็นหลัก เพราะคาดหวังถึงการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) กลุ่มการเงิน (TIDLOR) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SHR) ศูนย์การค้า (CPN) ส่งออกอาหาร (TU) โรงพยนตร์ (MAJOR)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CENTEL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 54.00 บาท) แม้คาดกำไรไตรมาส 3/23 จะลดลง QoQ เพราะประเมินว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจาก 1) การเริ่มดำเนินงานในช่วงแรกของเซ็นทาราแกรนด์โอซาก้าที่ให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ 1 ก.ค. 2023 และ 2) การรับรู้ค่าเช่าจ่ายเต็มไตรมาสภายใต้สัญญาเช่าใหม่ในส่วนของเซ็นทาราแกรนด์ หัวหินที่ขยายเวลาออกไปอีก 30 ปี (มีผลวันที่ 15 พ.ค.) อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับลงมา 9% จากจุดสูงสุดเดิม Price in ไปแล้ว

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16.90 บาท) 2023 TU รายงานกำไรปกติดีกว่าที่เราคาดไว้ถึง 40% มาอยู่ที่ 1,029 ล้านบาท (-37%YoY +1%QoQ) เพราะกําไรขั้นต้นที่ออกมาดี หลังสามารถปรับราคากับลูกค้า โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอาหารแปรรูป รวมถึงผลขาดทุนจาก Red Lobster ที่น้อยลง ทั้งนี้กำไรสุทธิที่ลดลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อนเป็นผลจากการชะลอตัวในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงหลังปัญหาการสต๊อกสินค้ายังไม่หมดไป โดยแนวโน้มช่วง 3Q23 คาดว่าจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจาก 2Q23

- Advertisement -