บล.บัวหลวง:
Beverage – กลับมาเติบโตอีกครั้ง! (NEUTRAL)
เรามองว่าการดำเนินงานหลักของทั้ง CBG และ OSP ถึงจุดต่ำสุดในครึ่งปีแรกปี 2566 โดยเราคาดกำไรรวมครึ่งหลังของปี 2566 จะเติบโต 54% YoY เราชอบ CBG มากกว่า OSP เนื่องจากแนวโน้มกําไรแข็งแกร่ง
กําไรรวมปี 2566 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY
มูลค่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทยมีแนวโน้มขยายตัว 4% YoY ในไตรมาส 3/66 เรามั่นใจว่ากําไรหลักของกลุ่มเครื่องดื่มแตะจุดต่ำสุดในครึ่งแรกของปี 2566 ลดลง 25% YoY เราคาดกำไรหลักรวมเพิ่มขึ้น 54% YoY ในครึ่งหลังของปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากรายได้และอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น เราคาดกําไรหุ้นกลุ่มเครืองดื่มชูกำลังปี 2566 สูงกว่ากําไรปี 2565 อยู่ 3% เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ CBG เนื่องจากฟื้นตัวของธุรกิจ เร็วกว่าคาด วันนี้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ OSP และปรับเพิ่มคําแนะนําจาก ถือ เป็น ชื้อ เนื่องจากผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
แม้เราจะแนะนำ ซื้อ หุ้นทั้งสองตัว แต่เราชอบ CBG มากกว่า OSP มูลค่าหุ้นของกลุ่มเครื่องดื่มอยู่ในระดับราคาไม่แพง โดย PER ปี 2567 ของ CBG อยู่ที่ 33 เท่า (เทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2558-2565 ที่ 39 เท่า) PER ปี 2567 ของ OSP อยู่ที่ 30 เท่า (เทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2557-2565 ที่ 36 เท่า)
แนวโน้มเชิงบวกต่อ CBG
ในรายงานของเรา ฉบับวันที่ 23 ส.ค. เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ CBG ขึ้น 15% ในปี 2566 และ 13% ในปี 2567 เนื่องจากการคาดการณ์ธุรกิจเดิม และโอกาสในการสร้างรายได้จากการเป็นผู้จัดทำแพ็กเกจและจัดจําหน่ายแบรนด์เบียร์ใหม่ในไทย ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ของเราจึงเพิ่มขึ้นจาก 78 บาท ไปเป็น 96 บาท ราคาเป้าหมายที่เพิ่มขึ้น 8 บาท/หุ้น สะท้อนคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับธุรกิจปัจจุบันของ CBG และที่เพิ่มขึ้น 10 บาท/ หุ้นสําหรับรายได้ที่คาดว่าจะมาจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจการจัดจำหน่ายเบียร์ เราใส่รายได้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจจัดจำหน่ายเบียร์เพียงหนึ่งในสามของเป้าหมายที่ผู้บริหารตั้งเป้า หากเป็นไปตามเป้า ราคาเป้าหมายของเราอาจปรับขึ้นไปที่ 121 บาท
ปรับเพิ่มคําแนะนําหุ้น OSP จาก ถือ เป็น ชื้อ
เราปรับเพิ่มประมาณการกำาไร OSP ขึ้น 3% ในปี 2566 และ 5% ในปี 2567 ดังนั้นราคาเป้าหมายปี 2566 ของเราจึงเพิ่มขึ้นเป็น 33 บาท จาก 32 บาท เราค่อนข้างมั่นใจว่าบริษัทถึงจุดต่ำสุดในครึ่งแรกของปี 2566 และตัวเลขของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในอนาคต โดยได้แรงหนุนจากยอดขายและอัตราทําไรที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มคําแนะนําจาก ถือ เป็น ชื้อ โดยเราประมาณการการเติบโตของยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังของ OSP ในไตรมาส 3/66 ที่ 7% YoY และ 5% QoQ สําหรับธุรกิจในประเทศ และเพิ่มขึ้น 49% YoY (แต่ลดลงตามฤดูกาล 11% QoQ) สําหรับธุรกิจต่างประเทศ ยอดขายโดยรวมไตรมาส 3/66 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 9% YoY (ทรงตัว QoQ) อัตรากําไร ขั้นต้นของ OSP ในไตรมาสนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 34.2% (29.3% ในไตรมาส 3/65 และ 34.0% ในไตรมาส 2/66) หนุนโดยประสิทธิภาพด้านต้นทุน ยอดขายที่สูงขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ลดลง