บล.ฟิลลิป:

ไทยออยล์ – TOP ค่าการกลั่นยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง

Key Point

ค่าการกลั่นยังคงอยู่ในระดับสูง ล่าสุดวันที่ 25 ส.ค. ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นมาที่ 15 USD/bbl สูงสุดตั้งแต่ต้นปี ทางฝ่ายยังคงมุมมองการฟื้นตัวในครึ่งหลัง เนื่องจากปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่ยังสนับสนุนทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานที่ยังตึงตัว ทำให้ราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับสูงได้ตั้งแต่เข้าสู่ไตรมาส 3 เป็นต้นมา และทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 57.50 บาท

2H66 ฟื้นตัวตามแนวโน้มค่าการกลั่นและราคาน้ำมัน

ทางฝ่ายคงคาดการณ์ครึ่งปีหลังกำไรจะกลับโตได้จากแนวโน้มราคาน้ำมัน โดยครึ่งปีหลังคาดการณ์ค่าการกลั่นเฉลี่ยของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 6-8 USD/bbl จากปัจจัยที่เป็นบวก ดังนี้ 1) คาดการณ์สมดุลน้ำมันจะอยู่ในภาวะที่ความต้องการใช้น้ำมันมากกว่าการผลิตเล็กน้อย เนื่องจากการควบคุมอุปทานของกลุ่มโอเปกพลัส 2) ปริมาณสต๊อกน้ำมันสำเร็จรูปยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ทำให้คาดว่ายังมีความต้องการใช้น้ำมัน ซึ่งน่าจะสามารถชดเชยอุปทานจากปริมาณการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นได้ 3) คาดการณ์ความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปครึ่งปีหลังปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน โดยน้ำมันดีเซลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปัจจัยในช่วงฤดูหนาว และน้ำมันอากาศยานปรับตัวขึ้นตามการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 4) คาดการณ์ Crude Premium 3Q66 ยังคงลดลงจาก 2.0 USD/bbl มาอยู่ที่ 1.7-1.8 USD/bbl หนุนให้ค่าการกลั่นสูงขึ้น 5) อุปสงค์น้ำมันในประเทศคาดว่าจะยังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยน้ำมันเบนซินโตตามยอดขายรถยนต์ +2.7% h-h น้ำมันอากาศยานโตตามการท่องเที่ยว +2.7% h-h และน้ำมันดีเซลโต 0.4% h-h อย่างไรก็ตาม ธุรกิจปิโตรเคมีจะยังได้รับแรงกดดัน ทั้งผลิตภัณฑ์อะโรมาติกส์และโอเลฟินส์ เนื่องจากกำลังการผลิตจากจีนยังเพิ่มสูงขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่าการเติบโตของอุปสงค์ รวมถึงธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นมีแนวโน้มอ่อนตัวลงด้านอุปทานส่วนเกินเช่นกัน แม้ธุรกิจปิโตรเคมีจะย่อตัวลงบ้าง แต่โดยรวมทางฝ่ายคาดว่ากำไรครึ่งปีหลังจะยังเติบโตได้ตามการฟื้นตัวของธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลัก

ความคืบหน้าแผนเพิ่มประสิทธิภาพตอบโจทย์ตลาดในอนาคต

ความคืบหน้าโครงการขยายกำลังการผลิต (CFP) ณ สิ้นเดือนก.ค. อยู่ที่ 92.8% คาดการณ์ COD ภายในปลายปี 67 ส่วนโครงการปิโตรเคมี (CAP) ในอินโดนีเซีย ได้มีการลงทุนเพิ่มในธุรกิจน้ำและธุรกิจไฟฟ้า เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมและสร้างรายได้ที่มั่นคงของโครงการ CAP เอง ด้านธุรกิจปิโตรเคมีบริษัทมีแผนมุ่งสู่ High Value Business ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้นในอนาคต และมี Margin ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะสารเคมีที่ใช้กำจัดเชื้อโรค  และสารลดแรงตึงผิวที่ใช้สำหรับทำการความสะอาด

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

จากแนวโน้มค่าการกลั่นและราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวกลับมาและยังอยู่ในระดับสูงตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. เป็นต้นมา โดยวันที่ 25 ส.ค.66 ค่าการกลั่น SG GRM ปรับตัวสูงสุดตั้งแต่ต้นปีที่ 15 USD/bbl ทางฝ่ายประมาณการกำไรปี 66-67 ที่ 1.7-1.8 หมื่นลบ. และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 57.50 บาท

ความเสี่ยง

1. การอ่อนตัวของค่าการกลั่นและความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ

2. สเปรดอะโรมาติกส์ถูกกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกิน

3. การหยุดซ่อมบำรุงนอกแผน

- Advertisement -