ยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ ประเมินเคลื่อนไหวกรอบจํากัด
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.1% หลังจาก ADP รายงานการจ้างงานภาคเอกชนต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.4% หลังจากสหรัฐฯ เผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดการณ์
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานการจ้างงานกาคเอกชนจากสถาบัน ADP ที่ 1.77 แสนราย ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.94 แสนราย โดยองค์ประกอบภายในพบว่า Sector ที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นได้แก่ ภาคผลิต ภาคก่อสร้าง การขนส่ง การศึกษา ภาคบริการ โดยพบธุรกิจขนาดใหญ่มีการจ้างงานสูงสุดและรองลงมาเป็นธุรกิจขนาดกลาง ขณะเดียวกัน ได้รายงาน GDP 2Q23 ที่ 2.1%QoQ แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 2.4% โดยพบการบริโภคของเอกชน (+1.7%QoQ) แต่การบริโภคสินค้าคงทน (-0.3%QoQ) การลงทุนภาคเอกชน (+3.3%QoQ) แต่การก่อสร้างที่อยู่อาศัย (-3.6%QoQ) การส่งออก (-10.6%QoQ) ดังนั้นโดยภาพรวมแล้วยังประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังดูไม่แข็งแกร่ง ส่งผลให้เมื่อคืน US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 ปีปรับลง โดย CME FED Watch ยังให้น้ำหนักสูงราว 88.5% ที่การประชุม FED เดือนกันยายนจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ทั้งระยะสั้นด้วย US Bond Yield ที่ปรับลงมาจะเป็นปัจจัยบวกกับหุ้นเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) ส่วนคืนนี้รอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 3.3%YoY หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นระยะสั้น ในประเทศช่วงบ่ายรอติดตาม แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน ก.ค. จากธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมกับดุลบัญชีเดินสะพัด Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่าจะเกินดุล 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากเกินมากกว่าคาดจะเป็นปัจจัยสนับสนุนค่าเงินบาท รวมถึงเป็นบวกทางอ้อมต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1570-1584 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยลดพอร์ตการลงทุน ประเมิน Upside จะเริ่มจำกัด หลังปรับขึ้นมารับปัจจัยบวกต่างๆ ไปพอควรแล้ว ทั้งปัจจัยการเมืองและปัจจัยต่างประเทศ จากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่วนหุ้นแนะนำ ระยะสั้นเลือกกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT AWC CENTEL ERW MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (SAWAD TIDLOR)
หุ้นแนะนำชื้อวันนี้
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท) ไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวกจากแนวโน้มปริมาณขายที่ปรับดีขึ้น โดยผู้บริหารให้แนวทางไว้ที่ 470kBOED (+6% QoQ) ขณะที่ราคาขายก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่ขึ้นไปแตะ US$84/บาร์เรลในเดือน ก.ค. หรือขึ้นไปกว่า US$6.0/บาร์เรลจากค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/23 ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นช่วงล่าสุดเป็นผลจากการที่ OPEC+ ขยายกรอบการลดปริมาณผลิตไปถึงเดือน ส.ค
SAWAD (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 59.00 บาท) คาดว่ากําไรสุทธิจะกลับมาโตในปี 2023 หลังจากหดตัวลง 5.2% ในปี 2022 หนุนจากสินเชื่อที่โตดีและส่วนแบ่งกำไรจาก FM โดย SAWAD จะนำรวมงบทั้งหมดของ FM กลับเข้ามาในงบไตรมาส 3/23 เราประเมินว่าจะทำให้บริษัทสามารถรายงานกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งระดับ 2.8 พันล้านบาทในครึ่งหลังปี 2023 ได้ (+21% HoH จาก 2.3 พันล้านบาทในครึ่งแรกปี 2023 +19% YoY จาก 2.4 พันล้านบาทในครึ่งหลังปี 2022) ขับเคลื่อนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่สูงขึ้นจากสินเชื่อที่โตต่อเนื่อง
