วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,570 / 1,562 แนวต้าน 1,577 / 1,581 ตลาดแรงงานสหรัฐส่งสัญญาณตึงตัวมากขึ้น รวมทั้งประมาณการ GDP สหรัฐ 2Q’66 ออกมาลดลง กระตุ้นความหวัง FED ยุติการขึ้นดอกเบี้ย แต่คืนนี้ต้องติดตาม PCE ได้ต่อคาดส่งให้ Upside อาจจำกัดได้บ้างในระยะสั้น
Our View? “Upside อาจเริ่มจํากัดบ้าง”
คาดตลาดวันนี้ “แกว่งออกข้าง” มองแนวรับที่บริเวณ 1,570 / 1,562 และแนวต้านที่บริเวณ 1,577 / 1,581 เมื่อคืนนี้ Automatic Data Processing (ADP) รายงานตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 1.77 แสนตำแหน่ง น้อยกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มลดความร้อนแรงลง สอดคล้องกับตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน ก.ค. ที่ออกมาลดลง 3.38 แสนตำแหน่งเมื่อวันก่อนหน้า บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มตึงตัว อีกทั้งการรายงานตัวเลขประมาณการ GDP สหรัฐ 2Q’66 ครั้งที่ 2 ออกมา +2.1%QoQ ต่ำกว่าประมาณการก่อนหน้าที่ +2.4%QoQ คาดจะกระตุ้นความหวังเกี่ยวกับแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ต่อ คาดยังกดดันทิศทางดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงได้ต่อ เช้านี้ Dollar Index อยู่ที่ระดับ 103.18+/- ลดลงต่อเนื่อง พร้อมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) ปรับตัวลงต่อเช่นกัน รุ่นอายุ 10 ปี เช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.10%+/- หนุนภาพรวมตลาดเปิดรับความเสี่ยงได้มากขึ้น และเป็นบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาค อย่างไรก็ตามคืนนี้แนะนำติดตามตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐเดือน ก.ค. วันที่ 31 ส.ค. เพื่อประเมินแนวโน้มในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED อีกครั้ง คาดจะออกมา +0.2%MoM/+3.3%YoY ขณะที่ Core PCE คาดจะออกมา +0.2%MoM/+4.2%YoY ยังอยู่ในระดับสูงอาจ ส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI. ล่วงหน้าส่งมอบเดือน ต.ค. เมื่อคืนนี้ยังฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ ปิดที่ระดับ 81.63 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.47 ดอลลาร์ (+0.58%) ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 10.5 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ค่อนข้างมาก สะท้อนอุปสงค์ในสหรัฐแข็งแกร่ง อีกทั้งเรายังมองทิศทางราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์พายุโซนร้อน Idalia จะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในสหรัฐ ทำให้อุปทานน้ำมันดิบในสหรัฐถึงตัวในระยะสั้น พร้อมทั้งการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐช่วยหนุนความน่าสนใจของราคาน้ำมันดิบได้เช่นกัน ขณะที่ค่าการกลั่นยังคงฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงาน (PTTEP) และโรงกลั่น (SPRC และ TOP) ปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มพลิกกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยเมื่อวานซื้อเพิ่ม 1.97 พันล้านบาท รวมทั้งยังอยู่ในฝั่ง Long SET50 Index Futures อีกกว่า 8.7 พันสัญญา คาดจะกระตุ้นความหวังเกี่ยวกับเม็ดเงินต่างชาติ (Fund Flow) มีโอกาสไหลเข้าได้บ้าง จากมุมมองเชิงบวกต่อภาพการเมืองไทยที่มีความคืบหน้ามากขึ้น หลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นได้ โดยเฉพาะแรงเก็งกําไรเข้ามาในหุ้นในกลุ่ม Domestic Play อาทิ หุ้นในกลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD, TIDLOR, KTC, AEONTS, JMT และ BAM) และกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, TNP และ BJC) ที่ได้รับความคาดหวังในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้เราคาดว่าความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลจะส่งผลให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีล่าช้าออกไปมาก คาดจะไม่ทันปีงบประมาณ 67 ในเดือน ต.ค. ทําให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสิ้นปี’66 เป็นไปได้ยาก คาดจะจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้บ้าง อย่างไรก็ดี เรามองความคาดหวังในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 1Q’67 โดยเฉพาะดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท คาดจะช่วยจํากัด Downside ของตลาดได้เช่นกัน รวมทั้งการส่งสัญญาณเตรียมยกเลิกวีซ่าให้กับประเทศจีนและอินเดีย รวมทั้งขยายระยะเวลาท่องเที่ยวของชาวรัสเซียได้ 90 วัน และแนวโน้มในการปรับลดภาษีน้ำมันเครื่องบินในประเทศลงเหลือที่ระดับ 0.20 บาทอีกครั้ง คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-สายการบิน (AOT, CENTEL, ERW, AAV และ BA) ได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “AOT”
- คาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ตามการส่งสัญญาณฟรีวีซ่าของนักท่องเท่ียวจีนและอินเดีย เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคา AOT
- ทางเทคนิคราคา Breakout แนวต้านที่เส้นแนวโน้มขาลงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ในภาพระยะสั้นเครื่องมือ MACD ให้สัญญาณซื้อ แต่ SSTO อยู่ในภาวะ Overbought แนะนำ “ย่อซื้อ”
- กลยุทธ์ ซื้อสะสม แนวรับ 72.50 / 74.50 Target 74.50 / 76.50 Stop <71.00