ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

SET Index ลดลง 4 จุด (-0.28%) ปิดที่ 1,562 จุด นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่สหรัฐจะประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET แกว่งตัว 1,550 – 1,570 จุด แม้จะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นตามความกังวล Supply ตึงตัวจากคาดการณ์กลุ่มโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้ รวมถึงคาดการณ์ FED ยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังอัตราการว่างงานสหรัฐปรับขึ้นสู่ 3.8%และการขยายตัวของค่าจ้างชะลอตัวลง อย่างก็ตาม Fund flow ต่างชาติที่ผันผวนจะกดดันให้ดัชนีแกว่งตัว

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • PTTEP TOP BCP SPRC ราคาน้ำมันดิบขึ้นเหนือ 85 US/Barrels
  • STA NER TEGH อานิสงส์ราคายางพาราปรับตัวขึ้น
  • CPALL CPAXT HMPRO GLOBAL DOHOME CPN CRC COM7 SYNEX SAWAD MTC AEONTS KTC คาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PTTEP (ปิด 162.5 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 182 บาท) คาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q23 ฟื้นตัวต่อเนื่อง วันนี้ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในปีนี้ คาด OPEC+ ขยายเวลาการลดการผลิตและคาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย
  • SPRC (ปิด 9.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 10.70 บาท) ภาครัฐส่งสัญญาลดราคาดีเซลทันทีโดยใช้กลไกลลดภาษีสรรพสามิต ข่าวนี้ปลดล็อก Overhang ให้กับกลุ่มโรงกลั่นเพราะเดิมตลาดกลัวรัฐจะใช้การลดราคาหน้าโรงกลั่น

บทวิเคราะห์วันนี้

  • BCP, ICT sector, Energy sector

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) Domestic play เก็งกำไร คาดรัฐบาลแถลงนโยบาย 8 ก.ย.และประชุม ครม.นัดแรก 12 ก.ย. นี้: พระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีตามที่นายกฯ เสนอ ลำดับถัดไปจะมีการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯ ในวันที่ 5 ก.ย. 66, แถลงนโยบายต่อรัฐสภา 8 ก.ย.และคาดว่าจะประชุม ครม. นัดแรก 12 ก.ย. หนุนหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐอีกครั้ง อาทิ ค้าปลีก รับเหมา นิคมฯ และ กลุ่มไฟแนนซ์

(+) คาดหวังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยหลังอัตราว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้นใกล้แตะเป้าหมายเฟดที่ 4%: สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 170,000 ตำแหน่ง แต่อัตราวางงานเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.8% ใกล้เคียงกับเป้าหมายของเฟดที่ 4% และมากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 3.5%

(+) น้ำมันดิบพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในปีนี้ โดยมีหลายปัจจัยหนุน: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.92$ (+2.3%) ปิดที่ระดับ 85.55$/bbl จาก 1) คาดกลุ่ม OPEC+ จะขยายเวลาลดการผลิตน้ำมันไปถึงสิ้นปี, 2) คาดอุปสงค์พลังงานจะเพิ่มขึ้นหากเฟดเริ่มหยุดขึ้นดอกเบี้ย, และ 3) จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 51 ในเดือน ส.ค. สะท้อนการผลิตจีนที่กลับมาฟื้นตัวหนุนดีมานด์พลังงาน.

ข่าวในประเทศและต่างประเทศ

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

ไทย

(-) ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนสิงหาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 48.9 ลดลงเล็กน้อยจาก 49.3 ในเดือนก่อน

สหรัฐ

(-) ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.9 ในเดือนส.ค. จากระดับ 49.0 ในเดือนก.ค. และหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4

(+) ISM รายงานดัชนีภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 47.6 ในเดือนส.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.0 จากระดับ 46.4 ในเดือนก.ค.

(+) การจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 187,000 ตําแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 170,000 ตําแหน่ง และสูงกว่าการจ้างงานในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 157,000 ตําแหน่ง

ยุโรป

(-) ยูโรโซน – ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.ของที่จัดทําโดยฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนสู่ระดับ 43.5 จากระดับ 42.7 ในเดือนก.ค. แม้ว่าจะต่ำกว่าตัวเลขขั้นต้นที่ 43.7

เอเชีย

(+/-) จีน – คันทรี การ์เดน ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหาของจีนได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้ให้ยืดเวลาการชําระหน้ีหุ้นกู้ในประเทศวงเงิน 3.9 พันล้านหยวน

(-) จีน – กระทรวงพาณิชย์ประกาศโควตาการส่งออกน้ํามันสําเร็จรูปของจีนรอบที่ 3 12 MT โดยโควตาปี 2023 ในปัจจุบันอยู่ที่ 40MT (+7.4% yoy)

- Advertisement -