บล.บัวหลวง:
Bangchak Corporation (BCP TB/BCP.BK)
BCP – เฟสใหม่ของการเติบโตหลังซื้อ ESSO
คาดการณ์การเติบโตของกำไรในครึ่งหลังของปี 2566 มุมมองเชิงบวกของตลาดต่อแนวโน้มการเติบโตของ BCP ทั้งจากธุรกิจปัจจุบันและจากการลงทุนในอนาคต และมูลค่าหุ้นที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นต่อไป
แนวโน้มธุรกิจส่วนใหญ่ดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 2566
กำไรจากธุรกิจโรงกลั่นของ BCP คาดว่าจะเพิ่มขึ้น HoH ในครึ่งหลังของปี 2566 หนุนโดยค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น (อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลและอุปทานที่ตึงตัว) และปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น (หลังจากการซื้อหุ้น ESSO) นอกจากนี้กำไรจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในครึ่งหลังของปี 2566 มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น HoH หนุนโดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้น 8-10% HoH) อัตรากำไรธุรกิจค้าปลีกน้ำมันคาดว่าจะทรงตัว HoH ในครึ่งหลังของปี 2566 เมื่อมองไปยังธุรกิจไฟฟ้าของ BCP กำไรในครึ่งหลังของปี 2556 จะเพิ่มขึ้น HoH หนุนโดยยอดขายไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 6 เดือนเต็มให้การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) และการรับรู้กำไรทั้งไตรมาสจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อน ร่วม (ในสหรัฐฯ) ในไตรมาส 4/66 นอกจากนี้ ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น (ยอดขายใหม่จากการเข้าซื้อ Esso) จะหนุนกําไรจากธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ HoH และกำไรจากธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติคาดว่าจะเพิ่มขึ้น HoH ในครึ่งหลังของปี 2566 จากราคาขายปิโตรเลียมที่สูงขึ้น
การเข้าซื้อหุ้น ESSO เสร็จสิ้นตามแผน
BCP เข้าซื้อหุ้น 65.99% ของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) จาก ExxonMobil สำเร็จเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 ตามแผนที่วางไว้ ในราคาซื้อ (และราคาเสนอซื้อ) ที่ 9.8986 บาท/หุ้น ดังนั้น BCP จะเริ่มรวม ESSO เข้ากับงบการเงินตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ทั้งนี้ BCP มีแนวโน้มที่จะบันทึกกำไรพิเศษจากการปรับมูลค่ายุติธรรม (ค่าความนิยมติดลบ) ในไตรมาส 3/66 ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่คงเหลืออยู่ โดยจะเริ่ม ในวันที่ 8 ก.ย.-12 ต.ค. วันชำระเงินคือวันที่ 17 ต.ค. และรายงานผลการทำคำเสนอซื้อจะเผยแพร่ในวันที่ 20 ต.ค.
BCP วางแนวทางการจัดหาเงินทุนสำหรับการซื้อหุ้น ESSO ไว้ 3 สถานการณ์: 1) ซื้อหุ้น ESSO 65.99% (2.26 หมื่นล้านบาท; กู้ยืม 22%), 2) ซื้อหุ้น ESSO 76% (2.67 หมื่นล้านบาท; กู้ยืม 35%), และ 3) ซื้อหุ้น ESSO 100% (3.43 หมื่น ล้านบาท; กู้ยืม 52%) แม้ในสถานการณ์ที่สาม งบดุลของ BCP ยังคงมี อัตราส่วนหนี้สินสุทธิ/ทุนอยู่ที่ 1.3 เท่า ซึ่งจะยังคงต่ำกว่าข้อกำหนดของเจ้าหนี้ที่ 2 เท่าอยู่มาก)
มีศักยภาพในการสร้างผลประโยชน์ร่วมกับ ESSO
เมื่อเสร็จสิ้นการซื้อกิจการ ESSO กำลังการกลั่นของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจาก 1.20 แสนบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 2.94 แสนบาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการค้าปลีกจะขยายจาก 1,361 แห่ง มาอยู่ที่ 2,193 แห่ง นอกจากนี้ผู้บริหารคาดว่าจะมีผลประโยชน์ร่วม (synergies benefits)ประมาณ 2.5 พันล้านบาทในปี 2567 และมากกว่า 3 พันล้านบาทในปี 2568 จากการรวมการดำเนินงานของ BCP และ ESSO ในการดำเนินงานด้านโรงกลั่น, โลจิสติกส์และการจัดหาน้ำมันดิบ, เครือข่ายการตลาด, และการประหยัดต้นทุนขององค์กร อย่างไรก็ตาม เราจะรอดูผลของการทำงานร่วมกันทั้งในด้านดำเนินงานและข้อมูลทางการเงิน ก่อนที่เราจะรวมผลประโยชน์ร่วมดังกล่าวเข้าในประมาณการของเรา