รับรู้ไปมากแล้ว / 1,540-1,555
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET แกว่งตัวในกรอบ มีโอกาสซึมตัวลง : โดยเป็นการพักตัวต่อเนื่องจากวานนี้ เนื่องจาก SET Index มี Valuation ที่เริ่มแพง สะท้อนจาก P/E ที่ระดับ 17.6x เข้าใกล้ค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 18.3x กอปรกับไร้ปัจจัยสนับสนุน/ชี้นำใหม่ๆ สอดรับกับการปิดทำการของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมาเนื่องในวันแรงงาน ด้านปัจจัยการเมืองในประเทศ SET Index ได้ตอบรับไปมากแล้ว โดยคาดการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ ครม.เศรษฐา 1 ในวันนี้ไม่สามารถเป็นแรงหนุนได้ ดังนั้น การลงทุนในวันนี้คาดเป็นภาพของการทำ Sector Rotation ออกจาก 1) หุ้นขนาดใหญ่ (สะท้อนจากการพร้อมใจกันขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันและต่างชาติวานนี้) และ 2) หุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่อง และหุ้นที่ได้รับ Sentiment จากการเมือง (หลังได้ตอบรับความคืบหน้าทางการเมืองไปมากแล้ว) ไปยังหุ้นที่มีปัจจัยทางบวกเฉพาะตัว หรือพักเงินในหุ้นกลุ่ม Defensive อย่างไรก็ดี วันนี้ติดตามการรายงานเงินเฟ้อเดือนส.ค.66 ของไทย ตลาดคาด 1) Headline CPI ขยายตัว 0.61% y-y เร่งตัวจาก 0.38% y-y ในเดือนก.ค.66 และ 2) Core CPI ขยายตัว 0.80% y-y ชะลอลงจาก 0.86% y-y ในเดือนก.ค.66 ทั้งนี้ การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวในระดับต่ำ/ชะลอตัวลง จะเป็นปัจจัยหนุนให้กนง.เข้าใกล้การยุติวงจรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และเป็น Sentiment ทางบวก SET Index รวมถึงเป็นการลดแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่อง นอกจากนี้ วันนี้ติดตามการรายงาน PMI ภาคบริการ เดือนส.ค.66 ของจีน ตลาดคาดที่ 53.6 แม้ชะลอลงเล็กน้อยจาก 54.1 ในเดือนก.ค.66 แต่ยังยืนเหนือ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัว
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) คาดหวังจีนฟื้นตัว: HANA, SCGP, SNNP, SISB 2) Commodity play: BRR, KSL, KTIS, NER, PTTEP, STA 3) Defensive play: BDMS, BH, CHG 4) พักหนี้เกษตรกร: MTC, TIDLOR และ 5) Dividend play: KBANK, SCB
ปัจจัยบวก
- NDRC เผยว่ารัฐบาลกลางจีนได้อนุมัติให้มีการจัดตั้งสำนักงานพิเศษภายใต้สังกัดของ NDRC เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการเติบโตของศก.ภาคเอกชน
- ซีอีโอคาร์ฟูร์เผยเงินเฟ้อราคาอาหารในฝรั่งเศสมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างมากตั้งแต่เดือนม.ค.67 หลังรัฐบาลฝรั่งเศสวางแผนที่จะจัดการเจรจาด้านราคาสินค้าประจำปีระหว่างผู้ค้าปลีกและบ.สินค้า อุปโภคบริโภคเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่เคยวางแผนที่จะจัดขึ้นในปีหน้า
- รัฐบาลญี่ปุ่นเผยจะตั้งกองทุนฉุกเฉินวงเงิน 2.07 หมื่นล้านเยน เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการที่จีนประกาศระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น
- Moody’s เพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของศก.สหรัฐฯปี 66 สู่ 1.9% จากเดิมที่ 1.1% เนื่องจากศก.อยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่งมากขึ้น
ปัจจัยลบ
- ธปท.เผย RSI เดือนส.ค.66 ปรับขึ้นมาที่ 46.7 แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากปัจจัยฉุดรั้ง เช่น กำลังซื้อที่เปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนฐานราก และภาวะต้นทุนที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง
- สนค.เผยผลศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก พบมีแนวโน้มส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยต้องพึ่งพาภาคการเกษตรเพื่อหาเลี้ยงชีพ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับพื้นที่เกษตรกรรม จึงส่งผลกระทบต่อรายได้ของคนกลุ่มนี้โดยตรง
- ยุโรปจะรายงาน PMI ภาคบริการเดือนส.ค.66 ในวันนี้ ตลาดคาดที่ 48.3 ซึ่งเป็นระดับหดตัว และชะลอลงจาก 50.9 ในเดือนก.ค.66
- สหรัฐฯจะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานเดือนก.ค.66 ในคืนนี้ ตลาดคาดหดตัว 2.5% ซึ่งเป็นการพลิกจากการขยายตัว 2.3% ใน เดือนมิ.ย.66 และอาจบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของภาคธุรกิจ
PICKS OF THE DAY
BDMS BUY
- เป้าหมาย 28.00/29.00 แนวรับ 26.50
- รายได้ COE ยังคงโตแข็งแกร่ง: ใน 1H66 รายได้จาก COE โต 13% y-y โดยสัดส่วนรายได้คิดเป็น 60% ของรายได้รวมโตจาก 47% ใน 1H65 สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้กลุ่มโรครักษายาก จาก Success rate ที่สูงและค่ารักษาต่ำกว่าฝั่งยุโรปและสิงคโปร์ ส่งผลให้แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยต่างชาติจะปรับตัวสูงขึ้น คาดสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% เหมือนในช่วงก่อน Covid ส่งผลให้มีมาร์จิ้นที่ดีขึ้นใน 2H66
- Defensive Stock: ปัจจุบัน BDMS มีค่า Beta = 0.7 ซึ่งต่ำกว่า 1 เป็น Defensive Stock เหมาะแก่การลงทุนในช่วงที่หุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน
SCB BUY
- เป้าหมาย 121.50/125.00 แนวรับ 114.00/116.00
- สินเชื่อเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่: ณ สิ้นเดือน ก.ค. SCB มีสินเชื่อเติบโต 2.02% ytd ในขณะที่ธนาคารขนาดใหญ่อื่นมีสินเชื่อหดตัว KTB หดตัว 1.53% ytd BBL หดตัว 2% ytd KBANK หดตัว 2.86% ytd
- จ่ายปันผลระหว่างกาลสูงสุด: SCB ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 2.50 บาท สูงที่สุดในธนาคารที่ประกาศจ่ายมาแล้ว และมี Div. yield สูงที่สุดด้วยที่ 2.1%
- Advertisement -
