บล.กรุงศรีฯ:
SEAFCO (SEAFCO TB/ SEAFCO.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง |
หุ้น | SEAFCO |
มูลค่าพื้นฐาน | 0.00 |
คำแนะนำ |
- What’s new?
ข้อมูลที่ได้จากงาน opportunity day เมื่อวานนี้อยู่ในเชิงบวก
เรามีมุมมองเชิงบวกจากผู้บริหาร โดยมีประเด็นสำคัญ คือ i) คาดว่าการรับรู้รายได้จะสูงขึ้นจากอัตราการใช้เครื่องจักรที่เพิ่มขึ้นจาก 60% ใน 2Q23 สู่ 75% ใน 3Q23 ii) อัตรากำไรขั้นต้นจะสุงขึ้นจากการรับรู้รายได้โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง
- Analysis
กำไรใน 3Q23 น่าจะเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq
เราคาดว่ากำไรใน 3Q23 จะเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq เนื่องจาก i) การรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นจากการใช้อัตราการใช้เครื่องจักรที่สูงขึ้น (มีการเทคอนกรีตเพิ่มขึ้นเพราะไม่ติดวันหยุดยาว โดยการเทคอนกรีตเฉลี่ยในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2023 เพิ่มขึ้น 26% yoy และ 8% qoq ตามลำดับ ii) คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นจากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (margin สูง) เพราะอัตราการใช้งานเครื่องจักรเพิ่มขึ้น และไม่มีการปรับต้นทุนจากกรณี cost overrun ใน 2Q23 ดังนั้น เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q23F จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับสูงสุดในรอบปีนี้ (1Q23-15.6% , 2Q23 -12.4%) iv) ค่าใช้จ่าย SG&A กลับมาอยู่ระดับปกติ (2Q23 มีค่าใช้จ่าย SG&A 6 ล้านบาทจากค่าทนาย และการจัด site visit ให้ลูกค้า)
จะได้รับผลกระทบไม่มากนักจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
จากนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจาก 350 บาท/วัน เป็น 600 บาท/วันในปี 2027 เราเชื่อว่าจะต้องใช้เวลาในการทยอยปรับขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทจะรับรู้รายได้จาก backlog ในปัจจุบันจนถึง 1Q24 ดังนั้น เราจึงคาดว่าบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะบริษัทสามารถส่งผ่านต้นทุนค่าแรงไปให้ลูกค้าโดยบวกเพิ่มเข้าไปในราคาตอนยื่นประมูลโครงการใหม่
- Action/ Recommendation
Bloomberg consensus ประเมินราคาเป้าหมายที่ 4.10 บาท
ราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็น P/BV ปี 2023-2024F ที่ 1.6/1.5x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -1S.D. ความคืบหน้าในการลงนามสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และการเปิดประมูลโครงการภาครัฐ จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นในระยะสั้น